ตลาดหลักทรัพย์ ตั้งเป้า บจ.ไทย เปิดเผยข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์เพิ่มกว่า 400 บริษัท ในปี 2568

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยจากการที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) เปิดเผยข้อมูลตามเกณฑ์ 56-1 One Report ซึ่งครอบคลุมการเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมการดำเนินงานขององค์กร หรือ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร

ทั้งนี้ เพื่อรองรับ พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้กฏหมายในปี 2570 เพื่อผลักดันให้ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมากต้องมีส่วนรับผิดชอบกับมลพิษที่ก่อขึ้น

โดยปัจจุบันพบว่ามี บจ.ประมาณ 30% หรือราว 267 บริษัท จากจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 860 บริษัท ที่มีการเปิดเผยข้อมูล คาร์บอนฟุตพริ้นท์ โดยได้รับการทวนสอบแล้ว ซึ่งถือว่าขยับขึ้นจากปีก่อนที่มีเพียง 20% อย่างไรก็ดีตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ได้พัฒนาระบบ SET Carbon ให้เป็นเครื่องมือคำนวณข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับ บจ.ที่สนใจจะเปิดเผยข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ซึ่งเบื้องต้นมี 170-180 บจ.สนใจและแสดงเจตนาที่จะเปิดเผยข้อมูลแล้ว และคาดว่าทั้งปีจะมีสัดส่วนบจ.ที่เปิดเผยข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์เพิ่มขึ้นเป็น 50% หรือกว่า 445 ของจำนวนบจ.ทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์

ขณะที่ น.ส.อโณทัย สังข์ทอง ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารและทะเบียนคาร์บอนเครดิตองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ภายใต้กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า

ปัจจุบันไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มี มาตรฐานรับรองคาร์บอนเครดิตของชาติ หรือ T-VER ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย อบก. ดังนั้นเมื่อผู้ประกอบการในประเทศต่างๆ ต้องทำโครงการลดก๊าซเรือนกระจก และต้องการการรับรองเครดิต ก็จะต้องไปใช้มาตรฐานอิสระของต่างประเทศ

“ดังนั้นเมื่อประเทศไทยเป็นผู้นำในเรื่องการมีมาตรฐานและมีหน่วยงานที่สร้างระบบการรับรองที่น่าเชื่อถือ เป็นไปตามมาตรฐานสากล ไม่ว่าเป็นเรื่องการตรวจสอบ การทวนสอบ การพัฒนาผู้ประเมินภายนอก ตลอดจนเครดิตที่ได้รับการรับรอง ซึ่งอบก.เป็นหน่วยงานของรัฐ ดังนั้นเชื่อมั่นได้ว่าคาร์บอนเครดิตที่ดำเนินการตามมาตรฐาน T-VER มีความน่าเชื่อถือเพราะหลักการณ์ทั้งหมดสอดคล้องกับมาตรฐานสากล”

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles