ตลาดหุ้นสหรัฐคึกคัก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทะยานกว่า 400 จุด ปิดใกล้ 44,000 จุด ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดคปิดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่สำเร็จ 

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 43,819 จุด +432 จุด หรือ +1.00% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 6,173 จุด +32 จุด หรือ +0.52% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 20,273 จุด +105 จุด หรือ +0.52% ส่งผลให้ทั้งดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และดัชนีหุ้นนาสแดค ทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด +0.02%, -0.2% และ +0.2% ตามลำดับ และในเดือนมิถุนายนนี้ ปิดพุ่ง +3.7%, +4.4% และ +6.1% ตามลำดับ 

สาเหตุจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าจีนตกลงเห็นด้วยกับกรอบการเจรจาภาษีและการค้ารอบที่สองซึ่งเกิดขึ้นช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษในขณะที่สหรัฐอเมริกาได้ลงนามในกรอบการเจรจาดังกล่าวไปเมื่อหนึ่งถึงสองวันที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังเปิดเผยต่อไปว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาไก่ได้ข้อยุตติข้อตกลงเจรจาภาษีและการค้ากับ 10 ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ในเร็วๆ นี้ 

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ปิดตลาดตรงกับวันครบรอบ 100 วันของการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ปรากฏว่า ครบ 100 วันดังกล่าวดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง -7.23% และมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐสะท้อนจากดัชนีหุ้นดังกล่าวหดหายมากถึง 3.66 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 122.6 ล้านล้านบาท ทำสถิติตลาดหุ้นนิวยอร์ก ครบ 100 วันของประธานาธิบดีดนัลด์ ทรัมป์ในสมัยที่ 2 ที่เลวร้ายเป็นอันดับที่ 3 ในโอกาสครบ 100 วันของประวัติศาสตร์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ผ่านมา สถิติดังกล่าวเป็นรอง หรือตามหลังในยุคอดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน เมื่อ 56 ปีผ่านมา และอดีตประธานาธิบดีเจอรัลด์ ฟอร์ด เมื่อ 51 ปีผ่านมา ตามลำดับ 

ก่อนหน้านึ้ถึงวันที่ 21 เมษายน 2025 ดัชนีหุ้นสำคัญทั้งสามแห่งทำสถิติดำดิ่งเลวร้ายถึง -9% นับตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2025 หรือเป็นวันที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศบังคับใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs กับ 185 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งยังคงร่วงลง -5.1%, -3.3% และ -2.5% ตั้งแต่วันที่ 2 มาถึงวันที่ 24 เมษายนผ่านไป ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และนาสแดคปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -2,352 จุด และ -959 จุดตามลำดับ

ทั้งนี้ สิ้นสุดปี 2024 พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง พุ่งสูง +13%, +23% และ +29% ตามลำดับ โดยเฉพาะ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติผลตอบแทนดัชนีหุ้นปิดบวกสูงกว่า 20% เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles