ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 37,361 จุด -231 จุด หรือ -0.62% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,765 จุด -17 จุด หรือ -0.37% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 14,944 จุด -28 จุด หรือ -0.19% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +0.34%, +1.84% และ +3.09% ตามลำดับ
สาเหตุจากผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ กล่าวว่า การผ่อนคลายหรือลดดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดอาจจะเกิดขึ้นช้ากว่าที่หลายคนประเมินไว้ การลดดอกเบี้ยระยะสั้นต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวังอย่างมากถึงแม้ว่าสัญญาณเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาจะทยอยลดลงเข้าสู่เป้าหมายก็ตาม ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นทันที และสูงสุดในรอบ 1 เดือน
นอกจากนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี พลิกกลับสูงขึ้นทันที และขึ้นสูงเหนือระดับ 4% ครั้งใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ที่ระดับ 4.103% และเป็นครั้งแรกของปี 2024 นี้ รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนึ้ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่าเฟดวอช์ท พบว่ามีโอกาสอยู่ที่ 80% จากเดิมที่ 70% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยดังกล่าวครั้งแรก 0.25% ในเดือนมีนาคมปี 2024