ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 38,111 จุด -330 จุด หรือ -0.86% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,235 จุด -31 จุด หรือ -0.60% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,737 จุด -183 จุด หรือ -1.08% ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดำดิ่ง 3 วันติดกัน รวมกว่า 930 จุด
ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสวนทางกัน -2.33%, +0.03% และ +1.41% ตามลำดับ ทำสถิติดัชนีหุ้นรายสัปดาห์ปิดเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบเกือบ 3 เดือน หรือตั้งแต่กุมภาพันธ์เป็นต้นมา นอกจากนี้ นับตั้งแต่ต้นปีมาถึงปัจจุบัน ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดทะยานขึ้น +6%, +11% และ +11% ตามลำดับ
สาเหตุจากท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกอ่อนค่า และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นอายุ 10 ปี ปิดลดต่ำลง แต่นักลงทุนเพิ่มความกังวลในโอกาสลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ โดยเฉพาะการประกาศตัวเลขรายได้การบริโภคส่วนบุคคลขาวอเมริกันเดือนเมษายนที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ ซึ่งตัวเลขสำคัญเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อในสหรัฐ
ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนกันยายนลดลงมาอยู่ที่ 59% จากเดิมที่ระดับ 65.7%
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทำสถิติทั้งในรายไตรมาส และรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 โดยในรายไตรมาสนั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +7.4%, +10.2% และ +9.1% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2021 สอดรับกับรายเดือน ปิดเพิ่มขึ้น +2.1%, +3.1% และ +1.8% ตามลำดับ