ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 41,250 จุด +9 จุด หรือ +0.02% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,625 จุด +8 จุด หรือ +0.16% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 17,754 จุด +29 จุด หรือ +0.16% ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดขึ้นสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่เป็นวันที่ 2 ติดกัน ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสูงขึ้น +1.3%, +1.45% และ +1.4% ตามลำดับ
สาเหตุจากนักลงทุนลงทุนต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่แล้ว จากแรงส่งของปัจจัยบวกเมื่อวันศุกร์ผ่านไปของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด กล่าวแสดงมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐบนเวทีการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ สาขาแคนซัส ซิตี้ ที่แจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง กล่าวว่า “เวลาได้มาถึงสำหรับการปรับเปลี่ยนดอกเบี้ยนโยบาย ทิศทางมีความชัดเจน ห้วงเวลาและความรวดเร็วของการลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่กำลังมาถึง มุมมองที่แปรเปลี่ยนมากขึ้น และสมดุลของความเสี่ยง ความมั่นใจของผมเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่บนเส้นทางที่สม่ำเสมอในการกลับไปยังเป้าหมายที่ 2%
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงในเดือนกันยายนถึง 0.5% อยู่ที่ 54% จากเดิมที่ 49% และลดดอกเบี้ยดังกล่าวลง 0.25% มีโอกาสอยู่ที่ 77.5% ขณะที่ โอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงในธันวาคมอยู่ที่ 72% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 50%