ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พลิกขึ้นเกือบ 170 จุด คาดหวังผลประกอบการหุ้นกลุ่มยักษ์เทคโนโลยี

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 44,882 จุด +168 จุด หรือ +0.38% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 6,071 จุด +31 จุด หรือ +0.53% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 19,681 จุด +49 จุด หรือ +0.25% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด +2.2%, +1.7% และ +1.7% ทำให้ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งปิดขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดดัน ตามลำดับ

สาเหตุจากนักลงทุนกลับเข้าลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะหุ้นบริษัทแอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่น ขณะที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสที่ 4 ต่ำกว่าคาดการณ์ไว้ กลายเป็นหนึ่งปัจจัยต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดในอนาคต เมื่อกลางสัปดาห์นี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด กล่าวว่าเฟด ไม่มีความจำเป็นที่จะเร่งรีบ ที่จะจะต้องปรับนโยบายการเงินหรืออัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ซึ่งอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันมีความเหมาะสมดีกับปัจจัยความท้าทายในขณะนี้ เมื่อมองออกไปจะมีความเสี่ยงหลายอย่าง หากลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเชิงรุกเกินไป เฟดรู้ว่า การลดอัตราดอกเบี้ยที่เร็วเกินไป หรือลดมากจนเกินไป อาจเป็นอุปสรรคต่อความคืบหน้าของการลดต่ำลงของอัตราเงินเฟ้อ

คณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25 ถึง 4.5% เท่าเดิม ส่งผลเป็นการตึงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นครั้งแรกในรอบปี 2025 นี้ และเป็นครั้งแรกใน 4 เดือนผ่านมา หรือนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 หลังจากได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลงถึงสามครั้งต่อเนื่องรวมลดลง 1.0% ในปี 2024 ผ่านมา

ด้านตัวชี้วัดโอกาสการตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด พบว่า โอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดในมีนาคมอยู่ที่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 41%

ทั้งนี้ สิ้นสุดปี 2024 พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง พุ่งสูง +13%, +23% และ +29% ตามลำดับ โดยเฉพาะ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติผลตอบแทนดัชนีหุ้นปิดบวกสูงกว่า 20% เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles