ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 38,627 จุด -145 จุด หรือ -0.37% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,005 จุด -24 จุด หรือ -0.48% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 15,775 จุด -130 จุด หรือ -0.82% ส่งผลให้หยุดดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งที่ปิดขึ้น 5 สัปดาห์ต่อเนื่อง ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดลดลง -0.11%, -0.42% และ -1.34% ตามลำดับ
ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดร่วงหลุดจากสถิติปิดเป็นประวัติศาสตร์รอบใหม่ ขณะที่ ดัชนีหุ้นนาสแดคยังห่างจากสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 16,057 จุด เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2022 และสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 16,121 จุด
สาเหตุจากนักลงทุนหวนกลับมากังวลรอบใหม่ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตสินค้าในเดือนมกราคมที่สหรัฐ เพิ่มสูงขึ้นถึง 0.3% มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ส่งผลประเมินระยะเวลาในการเริ่มลดดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐอาจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ก่อนหน้านี้ มีความเป็นกังวลกับกระทรวงแรงงาน สหรัฐอเมริกา ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคทั่วไปเดือนมกราคม 2024 พบว่า เพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเดือนก่อนหน้านึ้ และยังเพิ่มขึ้น 3.1% คาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 2.9% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันกับในปี 2566 นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคขั้นพื้นฐานเดือนมกราคม 2024 ยังพบว่าเพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนธันวาคม 2023 ที่ขยายตัว 0.3% ขณะที่ เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023
ทั้งนึ้ ด้านตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนพฤษภาคม ปี 2024 อยู่ที่ 57% ลดลงจากเดิมที่ระดับ 61%