ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 43,153 จุด -68 จุด หรือ -0.16% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,937 จุด -12 จุด หรือ -0.21% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 19,338 จุด -172 จุด หรือ -0.89% ก่อนหน้านี้ ทั้ง 3 ดัชนีหุ้นสำคัญยังทำสถิติพุ่งทะยานใน 1 วัน ดีที่สุดในรอบ 2 เดือนกว่า หรือตั้งแต่ 6 พฤศจิกายน 2024
สาเหตุจากนักลงทุนขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะหุ้นบริษัทแอปเปิลอินคอร์ปอเรชั่น ส่งผลมีราคาดำดิ่งมากสุดใน 1 วันที่เลวร้ายในรอบ 5 เดือนกว่า หรือตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2024 ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในคืนที่ผ่านมา ได้แก่ ตัวเลขแรงงานอเมริกันใช้สิทธิสวัสดิการช่วงว่างงานรายสัปดาห์พุ่งสูงถึง 217,000 คน ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 210,000 คน สะท้อนภาวะการจ้างงานที่ไม่แน่นอน
ด้านตัวชี้วัดโอกาสการตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดครั้งแรกในการประชุมวันที่ 27-28 มกราคม ปี 2025 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 97% และแนวโน้มที่จะตรึงดอกเบี้ยดังกล่าวไปถึงเดือนมีนาคม ขณะที่โอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดในมีนาคมอยู่ที่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 41%
ทั้งนี้ สิ้นสุดปี 2024 พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง พุ่งสูง +13%, +23% และ +29% ตามลำดับ โดยเฉพาะ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติผลตอบแทนดัชนีหุ้นปิดบวกสูงกว่า 20% เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งปิด +13%, +23.8% ในเดือนธันวาคม 2024 ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด -5.2%, -2.1% และ +1.4% ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ในธันวาคม 2024 ทำสถิติรายเดือนที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปี 3 เดือน หรือตั้งแต่กันยายนปี 2022 สอดรับกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ในธันวาคม 2024 ทำสถิติรายเดือนที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 8 เดือน หรือตั้งแต่เมษายนปีนี้