ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 39,512 จุด +125 จุด หรือ +0.32% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,222 จุด +8 จุด หรือ +0.16% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,340 จุด -5 จุด หรือ -0.03% ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดขึ้น 8 วันติดกัน ซึ่งยาวนานที่สุดในรอบปีนี้ หรือนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023 ทำให้ดัชนีหุ้นดังกล่าวปิดเพิ่มขึ้นรวม +1,609 จุด และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดเหนือ 5,200 จุดเป็นครั้งแรกตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน หรือในรอบ 1 เดือนผ่านมา
ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +2.16%, +1.85% และ +1.14% ตามลำดับ ในเดือนเมษายนผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดร่วง -5%, -4% และ -4% ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดรายสัปดาห์ที่ดีที่สุดในรอบ 5 เดือน หรือตั้งแต่ธันวาคม 2023 และยังปิดขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน
สาเหตุจากนักลงทุนยังให้น้ำหนักกับการส่งสัญญาณของบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐที่ไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมนัดถัดไป ท่ามกลางยอดชาวอเมริกันยื่นใช้สิทธิสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์เพิ่มสูงขึ้นแตะ 231,000 คน มากกว่าที่คาดไว้ที่ 215,000 คน ทำให้นักลงทุนมองว่าเป็นแรงกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐพิจารณาโอกาสการลดดอกเบี้ยระยะสั้นไม่ล่าช้าไปกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลง และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่อเนื่อง
ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนมิถุนายน ปี 2024 อยู่ที่ 21% จากเดิมที่ระดับ 50% ขณะที่โอกาสดังกล่าวที่จะลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนเพิ่มสูงขึ้นเป็น 71%
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทำสถิติทั้งในรายไตรมาส และรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 โดยในรายไตรมาสนั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +7.4%, +10.2% และ +9.1% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2021 สอดรับกับรายเดือน ปิดเพิ่มขึ้น +2.1%, +3.1% และ +1.8% ตามลำดับ