ตลาดหุ้นสหรัฐพลิกปิดบวก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งกว่า 110 จุด กลับขึ้นยืนเหนือ 42,000 จุดครั้งใหม่ ศาลการค้าระหว่างประเทศตัดสินภาษีต่างตอบแทนผิดกฎหมาย 

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 42,215 จุด +117 จุด หรือ +0.28% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,912 จุด +23 จุด หรือ +0.40% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 19,175 จุด +74 จุด หรือ +0.39% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด +3.4%, +5.3% และ +7.2% ตามลำดับ

ก่อนหน้านี้ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดขึ้น 9 ติดต่อกันรวม +3,146 จุด และ +525 จุด ตามลำดับ ซึ่งทำสถิติปิดขึ้นยาวนานที่สุดในรอบ 20 ปี 5 เดือนผ่านมา หรือตั้งแต่พฤศจิกายน 2004 สิ้นสุดเดือนเมษายน ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด -0.8%, -3.2% และ -0.9% ตามลำดับ 

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ปิดตลาดตรงกับวันครบรอบ 100 วันของการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ปรากฏว่า ครบ 100 วันดังกล่าวดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง -7.23% และมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐสะท้อนจากดัชนีหุ้นดังกล่าวหดหายมากถึง 3.66 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 122.6 ล้านล้านบาท ทำสถิติตลาดหุ้นนิวยอร์ก ครบ 100 วันของประธานาธิบดีดนัลด์ ทรัมป์ในสมัยที่ 2 ที่เลวร้ายเป็นอันดับที่ 3 ในโอกาสครบ 100 วันของประวัติศาสตร์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ผ่านมา สถิติดังกล่าวเป็นรอง หรือตามหลังในยุคอดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน เมื่อ 56 ปีผ่านมา และอดีตประธานาธิบดีเจอรัลด์ ฟอร์ด เมื่อ 51 ปีผ่านมา ตามลำดับ 

ก่อนหน้านึ้ถึงวันที่ 21 เมษายน 2025 ดัชนีหุ้นสำคัญทั้งสามแห่งทำสถิติดำดิ่งเลวร้ายถึง -9% นับตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2025 หรือเป็นวันที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศบังคับใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs กับ 185 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งยังคงร่วงลง -5.1%, -3.3% และ -2.5% ตั้งแต่วันที่ 2 มาถึงวันที่ 24 เมษายนผ่านไป ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และนาสแดคปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -2,352 จุด และ -959 จุดตามลำดับ

สาเหตุจากเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2025 ตามเวลาในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ศาลการค้าระหว่างประเทศสังกัดรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาแห่งนครแมนฮัตตัน ประกาศคำตัดสินยับยั้งการบังคับใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทนหรือ  Reciprocal Tariffs ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาซึ่งลงนามโดยประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่อาศัยอำนาจประกาศมาตรการดังกล่าวภายใต้กฎหมายอำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินสากลของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ นักลงทุนรอติดตามประกาศตัวเลขรายจ่ายส่วนบุคคลชาวอเมริกันในวันศุกร์นี้ 

ทั้งนี้ สิ้นสุดปี 2024 พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง พุ่งสูง +13%, +23% และ +29% ตามลำดับ โดยเฉพาะ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติผลตอบแทนดัชนีหุ้นปิดบวกสูงกว่า 20% เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles