ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 42,515 จุด +317 จุด หรือ +0.75% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 6,033 จุด +56 จุด หรือ +0.94% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 19,701 จุด +294 จุด หรือ +1.52% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 กลับมาปิดเหนือระดับ 6,000 จุดครั้งใหม่ ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด -1.3%, -0.4% และ -0.6% ตามลำดับ
สาเหตุจากรายงานข่าวหลายแห่ง ได้แก่ เอ็นบีซี รอยเตอร์ส วอลสตรีทเจอร์นัล บลูมเบิร์ก เป็นต้น รายงานตรงกันว่า เจ้าหน้าที่อาวุโสระดับสูงของทางการอิหร่านเปิดเผยว่า รัฐบาลอิหร่านมีความตั้งใจที่จะยืดหยุ่นในการเจรจาโครงการนิวเคลียร์ ถ้าหากการยุติการโจมตี หรือการหยุดยิงเกิดขึ้นทันที รัฐบาลประเทศโอมาน กาตาร์ และซาอุดิอาระเบีย ซึ่งล้วนเป็นประเทศชั้นนำในภูมิภาคตะวันออกกลางได้ร้องขอไปยังรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ให้ใช้ความสนิทสนมและการมีอิทธิพลต่อประเทศอิสราเอลเพื่อทำการเจรจากับผู้นำสูงสุดของอิสราเอล ให้ยุติการโจมตี หรือนำไปสู่การหยุดยิงทันที เพื่อวัตถุประสงค์ในการกลับไปสู่การเจรจาโครงการนิวเคลียร์กับประเทศอิหร่าน สำนักข่าววอสตรีท เจอร์นัล หรือดับเบิลยูเอสเจ ซึ่งเป็นสำนักข่าวชื่อดังระดับโลกของสหรัฐอเมริกา รายงานว่า ประเทศอิหร่านส่งสัญญาณผ่านประเทศชั้นนำในภูมิภาคตะวันออกกลางโดยต้องการลดความเป็นศัตรูกับประเทศอิสราเอล
ทั้งนี้ สิ้นสุดปี 2024 พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง พุ่งสูง +13%, +23% และ +29% ตามลำดับ โดยเฉพาะ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติผลตอบแทนดัชนีหุ้นปิดบวกสูงกว่า 20% เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
