ดัชนี SET Index หุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,481.67 จุด เพิ่มขึ้น 18.72 จุด หรือ +1.28% ด้วยมูลค่าซื้อขายราว 39,287.25 ล้านบาท ดัชนีดีดตัวขึ้นไปตลอดวัน โดยทำจุดสูงสุด 1,486.55 จุด และจุดต่ำสุด 1,462.63 จุด
สำหรับ 3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
- DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,812.21 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท
- PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,000.27 ล้านบาท ปิดที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
- BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,665.85 ล้านบาท ปิดที่ 27.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีตามทิศทางตลาดภูมิภาค โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงที่ปรับตัวขึ้นไปกว่า 2% จากความคาดหวังว่าการประชุมคณะกรรมาธิการสามัญของสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ในวันที่ 4-8 พ.ย. จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึงการแก้ไขปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนฟื้นตัว
ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยตลาดคาดนางคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากเดโมแครตมีคะแนนนำนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากรีพับลิกันอยู่ 1% และเว็บพนันเปลี่ยนมาเพิ่มอัตราการต่อรองว่าแฮร์ริสจะได้รับชัยชนะ จากสัปดาห์ก่อนคาดว่าทรัมป์จะชนะ โดยหากแฮร์ริสได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐจะดีต่อตลาดหุ้นเอเชีย เพราะมีนโยบายคล้ายๆ ประธานาธิบดีไบเดน ไม่มีการตั้งกำแพงภาษี ไม่มีสงครามการค้า (Trade War) จุดนี้น่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ตลาดเอเชียวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ ส่วนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) 6-7 พ.ย.นี้ ตลาดคาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ด้านปัจจัยในประเทศ รอติดตามรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์อัพ หลังวันนี้ไปตัวขึ้นแรง แต่ก็ยังต้องติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งน่าจะรู้ผลเบื้องต้นว่าใครชนะ โดยหากแฮร์ริสชนะจะหนุนให้ตลาดปรับตัวขึ้นต่อ แต่หากทรัมป์ชนะก็จะกดตลาดหุ้นปรับตัวลง โดยให้แนวต้านที่ 1,494 จุด แนวรับที่ 1,460 จุด