ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,399.38 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +11.56 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.4% ส่งผลหยุดราคาปิดลดลง 3 วันรวมกัน -49.98 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.0% สำหรับราคาทองคำส่งมอบทันที Spot Gold ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์อยู่ที่ 2,483.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมผ่านมา
ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,438.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +7.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.3% ส่งผลหยุดราคาปิดลดลง 3 วันรวมกัน -49.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -2.1% ทั้งนี้ ราคาทองคำล่วงหน้าปิดใน 2 วันก่อนถึงวันศุกร์ด้วยการทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่เป็นวันที่ 2 ติดกัน ได้แก่ วันที่ 31 กรกฎาคม ราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์อยู่ที่ 2,473.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ วันที่ 1 สิงหาคม ราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์อยู่ที่ 2,480.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และทำสถิติราคาสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ที่ระดับ 2,504.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ราคาทองคำตลาดโลกในสัปดาห์นี้ ปิดเพิ่มขึ้น +1.8% นอกจากนี้ ทองคำปิดในเดือนกรกฎาคมพุ่งสูงกว่า 4% ทำสถิติราคาทองคำรายเดือนมากที่สุดในรอบ 4 เดือน หรือตั้งแต่มีนาคมเป็นต้นมา
สาเหตุจากนักลงทุนหยุดทำกำไรต่อเนื่องหลังจากราคาทองคำมีราคาปิดลงหลุดระดับ 2,380 ดอลลาร์ กลุ่มฮามาสติดอาวุธประกาศเตรียมตอบโต้อย่างรุนแรงและหวังผล หลังจากผู้นำกลุ่มดังกล่าวเสียชีวิตในสัปดาห์ผ่านไป ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน หรือตั้งแต่กุมภาพันธ์ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้น อายุ 10 ปี ปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 4% ต่อเนื่อง ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 1 ปี หรือตั้งแต่กลางปี 2023
ก่อนหน้านี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ แถลงว่าคณะกรรมนโยบายการเงินมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นกับข้อมูลเงินเฟ้อที่กำลังเข้าสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดเปิดช่องพิจารณาลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนชัดเจนมากที่สุดเท่าที่เคยส่งสัญญาณมา นอกจากนี้ มีมติตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นท่ระดับ 5.25-5.50% ต่อเนื่อง ขณะที่ นักวิเคราะห์ประเมินว่า มีแนวโน้มสูงที่ธนาคารกลางกลุ่มยูโรจะลดดอกเบี้ยระยะสั้นในเดือนกันยายน ซึ่งตรงกับที่คาดการณ์กันมาเป็นเวลานานว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายนเช่นกัน
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงในเดือนกันยายนเป็น 66% จากเดิมที่ 98% ขณะที่ โอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงในธันวาคมอยู่ที่ 72% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 50% หลังจากในช่วงเริ่ผ่านมา มีการประเมินว่าการลดดอกเบี้ยของเฟดครั้งแรกอาจเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน จากที่เคยให้น้ำหนักมาที่เดือนกันยายน
ย้อนกลับไปเมื่อสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ผ่านไป ปรากฏว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดสุทธิรายไตรมาสที่ระดับ 2,336 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เพิ่มขึ้นกว่า +5% จากไตรมาสที่ 1 ปีนี้ นอกจากนี้ ยังทำสถิติราคาทองคำปิดรายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ รวมถึงเป็นราคาปิดรายไตรมาสที่ 3 ต่อเนื่องอีกด้วย ที่สำคัญ ใน 12 เดือนผ่านมาถึงสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ผลตอบแทนจากการลงทุนทองคำพุ่งทะยานสูงถึง 21%
ย้อนกลับไปเมื่อวันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน หลังปิดตลาดทองคำนิวยอร์ก สหรัฐ เมื่อเวลา 16.00 น. ตามเวลาในนิวยอร์ก พบว่าราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ร่วงหนักต่อเนื่องลงมาลึกต่ำสุดที่ระดับ 2,288.53 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -85.46 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -3.7% เมื่อเทียบจากราคาปิดตลาดนิวยอร์กเป็นทางการ ส่งผลทำสถิติราคาทองคำดำดิ่งมากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี หรือตั้งแต่สิงหาคม 2021
ในเดือนพฤษภาคม ราคาทองคำปิดขึ้น +1.8% ในขณะที่ช่วงสัปดาห์ที่ 3 เป็นราคาทองคำรายขณะที่สัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 5 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่พฤศจิกายน 2023 ผ่านมา ขณะที่ ในเดือนเมษายนผ่านไป ทองคำปิดเพิ่มขึ้น +3.3% ส่งผลให้ทองคำตลาดโลกปิดขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และราคาทองคำตั้งแต่ต้นปีมาถึงสิ้นสุดเดือนพฤษภาคมทะยานขึ้น 13.25%
ทั้งนี้ เดือนเมษายนผ่านไปนั้น ทองคำตลาดโลกพุ่งขึ้น 3.3% เดือนมีนาคมผ่านไป ทองคำตลาดโลกพุ่งทะยาน 9% ทำสถิติทองคำรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 3 ปี 8 เดือน หรือตั้งแต่กรกฎาคม 2020 นอกจากนี้ ราคาทองคำปิดขึ้น +8% ในไตรมาสที่ 1 ส่งผลเป็นราคาทองคำที่ปิดบวกติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 อีกด้วย
