วันนี้ 17 มิถุนายน 2024 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานว่า ดัชนีหุ้น SET Index หุ้นไทย ปิดที่ระดับ 1,296.59 จุด ปรับลดลง -9.97 จุด หรือ -0.76% มูลค่าการซื้อขาย 40,649.58 ล้านบาท ดัชนีลงมาเคลื่อนไหวแดนลบตลอดทั้งวัน โดยทำจุดต่ำสุด 1,288.58 จุด และทำจุดสูงสุด 1,305.20 จุด
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมากถึง -2,706.28 ล้านบาท เมื่อนับรวมตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมากถึง -18,127.86 ล้านบาท สอดรับกับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันนี้ 17 มิถุนายน 2024 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมากถึง -100,287.48 ล้านบาท ส่งผลให้วันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยทะลุหลัก 100,000 ล้านบาท
ข้อมูลถึงเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2024 นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิหุ้นไทยรวมกัน 18 วันทำการติดต่อกัน หรือตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคมถึงวันที่ 17 มิถุนายน 2024 (ในวันทำการ) มูลค่า 34,891.66 ล้านบาท ส่งผลทำสถิตินักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยยาวนานที่สุดในรอบ 4 เดือน 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง หรือนับตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2024
ที่สำคัญ ดัชนีหุ้นปิดในวันนี้ 17 มิถุนายน 2567 นั้น ยังดำดิ่งมากถึง -526.07 จุด หรือดิ่งลงเหวถึง -28.86% เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,822.66 จุด ส่งผลตลาดหุ้นไทยเข้าภาวะหมี หรือ Bear Market มาอย่างยาวนาน
ด้านนายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า ขณะนี้หุ้นไทยต่ำกว่า 1,300 จุด หมายความว่า ถ้านักลงทุนซื้อหุ้นไทยตอนนี้ ผลตอบแทนโดยรวมยังมีแนวโน้มอยู่ตัว และจะปรับตัวขึ้น หากเปรียบเทียบองค์ประกอบที่อยู่ในหุ้นไทย และองค์ประกอบหุ้นต่างประเทศ ไทยมีอุตสาหกรรมที่ดีอยู่ ทั้งการเงิน คอนซูมเมอร์ เป็นต้น หากเปรียบเทียบการเติบโตตลาดหุ้นในเอเชีย จะเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยยังไม่ได้เติบโตมาก โดยมองว่าตลาดหุ้นไทยที่ต่ำกว่า 1,300 จุด ไม่ได้แปลว่าตลาดหุ้นเราไม่มีสเน่ห์ เชื่อว่า ปีนี้ทั้งปีการลดน้ำหนักของหุ้นไทยจบลงแล้วจากผลประกอบการที่มีอยู่ปัจจุบันนั้น หุ้นไทยเริ่มปรับฐานขึ้น
เลขาธิการ กบข. กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันหุ้นไทยไม่แพงเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ที่สินทรัพย์ที่อยู่ในตลาดเริ่มดีขึ้น และการที่มองดัชนีหุ้นไทยจะต้องขึ้นเสมอไป อาจจะไม่ใช่คำตอบที่เดียว ซึ่งหุ้นไทยยังได้ผลตอบแทนปันผลที่ดี ซึ่งการเหมารวมดัชนีหุ้นไทยเพียงอย่างเดียว เมื่อเปรียบเทียบหุ้นรายตัว โดยไม่ได้ดูผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอาจจะเป็นเรื่องไม่เหมาะสม