ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่า วันที่ 7 เมษายน 2025 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,963.19 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -61.01 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -2.4% ส่งผลเป็นราคาทองคำปิดหลุดระดับ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์เป็นครั้งแรกในรอบ 25 วัน ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังส่งผลราคาปิดร่วงลง 3 วันติดกันรวม -166.27 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -6.15% ขณะที่ราคาต่ำสุดระหว่างวันลงแตะระดับ 2,955.89 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ขณะที่เมื่อคืนผ่านมา 3 เมษายน มีราคาสูงสุดระหว่างเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ที่ระดับ 3,167.57 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันที่ 27 มีนาคม 2025 ทองคำราคาส่งมอบทันที(Spot)ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่เกิดขึ้น 20 ครั้ง และมีราคาทะยานขึ้นกว่า 16% นอกจากนี้ สิ้นสุดไตรมาสที่ 1 พบว่าราคาทองคำพุ่งดีที่สุดในรอบ 39 ปี หรือตั้งแต่ปี 1986 ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคมผ่านมา เป็นวันแรกที่ราคาทองคำปิดแตะหลัก 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ โดยครั้งสุดท้ายที่ราคาทองคำปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์อยู่ที่ระดับ 3,129.46 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 เมษายนผ่านมา
สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 2,973.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -148.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -2.0% ส่งผลเป็นราคาทองคำปิดหลุดระดับ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์เป็นครั้งแรกในรอบ 25 วัน ผ่านมา นอกจากนี้ ส่งผลราคาปิดร่วงลง 3 วันติดกันรวม -278.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -6.2% ราคาทองคำล่วงหน้า (Future) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ และเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 16 ในปี 2025 นี้ นอกจากนี้ ครั้งสุดท้ายที่ทองคำมีราคาปิดนิวไฮเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 เมษายน ปิดที่ระดับ 3,166.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ขณะที่เมื่อวันที่ 14 มีนาคม เป็นครั้งแรกที่มีราคาปิดแตะหลัก 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และปิดที่ระดับ 3,001.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
สาเหตุจากนักลงทุนยังคงเทขายทองคำตามสถานการณ์ภาวะถล่มเทขายตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแม้ว่าความรุนแรงจะผ่อนคลายลงในระดับหนึ่ง นักลงทุนทองคำที่ใช้เงินกู้มาลงทุนยังถูกบังคับขายจากการลงทุนที่ขาดทุนในวันพฤหัสบดีที่มีราคาทองคำตกต่ำมาก
ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดกัน และแข็งค่าขึ้นจากระดับอ่อนค่าต่ำสุดใน 6 เดือน เนื่องจากนักลงทุนโยกเข้าลงทุนใน 3 สกุลเงินสำคัญที่มีความปลอดภัย ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ ฟรังค์สวิส และเยน ปัจจัยลบรุนแรงอีกอย่าง คือ ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า หากจีนไม่ถอนการตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสูง 34% กับสหรัฐภายในวันที่ 8 เมษายน สหรัฐจะขึ้นภาษีนำเข้าสูงอีก 50% กับจีน ให้มีผลวันที่ 9 เมษายนนี้