ตลาดซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศในเซี่ยงไฮ้ จีนแผ่นดินใหญ่ รายงานว่า ค่าเงินหยวนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ มีราคาร่วงอ่อนค่าตลอดทั้งวานนี้ โดยเงินหยวนถูกเทขายอ่อนค่าลงลึกแตะที่ระดับ 7.24 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติอ่อนค่าต่ำสุดนัยตั้งแต่ 17 พฤศจิกายน 2023 หรืออ่อนค่ามากสุดในรอบ 4 เดือน 1 สัปดาห์ ท่ามกลางธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่เข้าแทรกแซงค่าเงินหยวนเมื่อวานนี้ให้กับมาอยู่ในระดับ 7.2275 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ยังคงมีแรงเทขายอย่างต่อเนื่องจนปิดตลาดเมื่อวานนี้
นักวิเคราะห์ค้าเงินต่างประเทศในจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยว่า ค่าเงินหยวนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐถูกเทขายจนอ่อนค่าถึง 2% ในช่วง 3 เดือนมาถึงเมื่อวานนี้ สาเหตุจากนักลงทุนหวั่นความผันผวนจากแรงกดดันที่มีต่อธนาคารกลางจีนอาจะลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงหลังจากธนาคารกลางสำคัญและทรงอิทธิพลมากอันดับต้นๆของโลก เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลุ่มยูโร ธนาคารกลางอังกฤษ ส่งสัญญาณชัดเจนว่าลดดอกเบี้ยต่อเนื่องเริ่มในครึ่งปีหลังนี้ ในขณะที่ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2024 ธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี และปิดฉากดอกเบี้ยติดลบหลังใช้มานานถึง 7 ปีด้วย
ที่สำคัญ ความผันผวนในตลาดเงินเกิดขึ้นทั่วโลกทันทีและใน 48 ชั่วโมงผ่านมา หลังจากธนาคารสวิสเซอร์แลนด์ลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ซึ่งเหนือความคาดหมายอย่างมาก และกลายเป็นธนาคารกลางแห่งแรกที่ลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง ทำให้นักลงทุนแห่เข้าลงทุนซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐหนาตาและต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจในการถือเงินดอลลาร์สหรัฐมากที่สุด ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้ ปรากฏว่าปรับแข็งค่าขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ต่อเนื่อง รวมถึงทำสถิติแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 1 เดือนกว่า
ตลาดซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศในนิวยอร์ก สหรัฐ และในกรุงลอนดอน อังกฤษ รายงานว่า ในคืนผ่านมาค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทะยานแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือนกว่า สะท้อนจากดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นมากกว่า 2% นับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนแผ่นดินใหญ่ และกระทรวงพาณิชย์ จีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยว่า มูลค่าเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศจีนในเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2024 พบว่าลดต่ำลงมาอยู่ที่ 215,100 ล้านหยวน หรือ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.11 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 พบว่าเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศเข้าในประเทศจีนดำดิ่งหนักถึง -19.9% ภาวะการลงทุนทางตรงจากต่างชาติในจีนแผ่นดินใหญ่ตกต่ำมาตั้งแต่แต่ปี 2023 ปรากฏว่า มีมูลค่าลดลงถึง -8% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2022
สาเหตุจากนโยบายและมาตรการการกำกับดูแล รวมถึงการแทรกแซงของรัฐบาลจีนที่เข้มงวดมากขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมหลายอย่าง เช่น เทคโนโลยี การศึกษา เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นบริษัทชั้นนำสัญชาติจีน และสัญชาติต่างประเทศล้วนถูกตรวจสอบ และบุกรุกจากทางการจีน นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวและซบเซาต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดประเทศหลังสิ้นสุดการระบาดของโรคโควิด-19 มาถึงปัจจุบัน และความขัดแย้งทางนโยบายการเมืองระหว่างประเทศของจีนกับสหรัฐซึ่งเป็นผู้นำโลกตะวันตก
