วันที่ 28-30 ตุลาคม 2567 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย และท่าอากาศยานภูเก็ต จัดกิจกรรมต้อนรับผู้โดยสารขาเข้าในเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย จำนวน 3 เส้นทาง ที่เดินทางเข้าสู่ “ภูเก็ต” จากต้นทางโกลกาตา เชนไน สาธารณรัฐอินเดีย และเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีนางพิมพา รัตนพฤกษ์ รองผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้และแปซิฟิกใต้ ททท. นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. ภูเก็ต นายเอกนฤน สมานรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานภูเก็ต นายอรุณ ลิลาพันธิสิทธิ ผู้จัดการสายการบินแอร์เอเชีย ประจำท่าอากาศยานภูเก็ต และตัวแทนจากสมาคมธุรกิจ การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ให้เกียรติร่วมกิจกรรมฯ สะท้อนถึงอัตราการเติบโตของ Demand และเป็นสัญญาณที่ดีในการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียและกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง รับฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปี ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแรงส่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยมุ่งสู่การเป็น Tourism Hub หรือ “ศูนย์กลางการท่องเที่ยว” ของภูมิภาคตามนโยบายของรัฐบาล
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่าตามที่รัฐบาลไทยเห็นชอบการต่ออายุมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง (VISA Excemption) ส่งผลให้มีการเดินทางของนักท่องเที่ยวอินเดียเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเปิดเส้นทางบินใหม่ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่ โกลกาตา-ภูเก็ต เชนไน-ภูเก็ต และเสียมราฐ-ภูเก็ต ในครั้งนี้ จะมีส่วนสำคัญในการเชื่อมโยงการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ให้เกิดการเดินทางไปมาระหว่างกันได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น (Ease of Travelling) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างนครวัดแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกในเมืองเสียมราฐของกัมพูชากับภูเก็ตจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวทางทะเลยอดนิยมติดระดับโลกของประเทศไทยจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวนานาชาติสามารถเดินทางสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ทางการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังส่งผลดีต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวปลายปีซึ่งเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น สอดคล้องกับกลยุทธ์ IGNITE Thailand’s Tourism ตลอดจนส่งผลดีต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวปลายปีซึ่งเป็นช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวฝั่งทะเลอันดามัน (High Season) นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจภาพรวม และเป็นหนึ่งในแรงส่งขับเคลื่อนประเทศไทยมุ่งสู่การเป็น Tourism Hub ในอนาคต
สำหรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ FD187 เส้นทางโกลกาตา-ภูเก็ต ออกเดินทางจากกรุงโกลกาตา สาธารณรัฐอินเดีย เวลา 03.25 น. ถึงจุดหมายปลายทางท่าอากาศยานภูเก็ต ประเทศไทย เวลา 08.00 น. ของวันเดียวกัน โดยกำหนดเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป และจะทำการบินอย่างต่อเนื่องด้วยความถี่ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ต่อมากับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ FD613 ออกเดินทางจากเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ถึงท่าอากาศยานภูเก็ต ประเทศไทย ในวันที่ 29 ตุลาคม 2567 และปิดท้ายกับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ FD193 เส้นทางบินตรงจากกรุงเชนไน สาธารณรัฐอินเดีย ถึงจังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 30 ตุลาคม 2567 โดยจะให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ซึ่งเที่ยวบินปฐมฤกษ์ทั้ง 3 เส้นทาง ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียและกัมพูชาให้ออกเดินทางแสวงหาประสบการณ์รูปแบบใหม่ มายังจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม มีศักยภาพการให้บริการพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ครอบคลุมด้วยเสน่ห์ไทยในหลากหลายมิติที่รอให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส
ตลาดอินเดียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวเป้าหมาย ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เดินทางด้วยตนเอง (FIT) ถึงร้อยละ 76.97 กรุ๊ปทัวร์ร้อยละ 20.39 และเป็นกลุ่ม First Visit ถึงร้อยละ 67.55 โดยจังหวัดภูเก็ต เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ครองใจนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเสมอมา นอกจากมาท่องเที่ยวพักผ่อนแล้ว ชาวอินเดียยังนิยมเดินทางมาทำธุรกิจและฉลองแต่งงานหรือครบรอบแต่งงานในประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ การเติบโตของตลาดอินเดียยังคงมีแนวโน้มสดใสอย่างต่อเนื่องจากการขยายโอกาสทางการบินของสายการบินต่าง ๆ ที่ทยอยเปิดเส้นทางบินใหม่ ๆ จากเมืองรองของอินเดีย และอัตราการฟื้นตัวของความจุโดยสารเที่ยวบิน (Load Factor) ถึงร้อยละ 84 จากปี 2562 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-27 ต.ค. 2567 ประเทศไทยได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอินเดียแล้ว จำนวนกว่า 1,684,703 คน ซึ่งเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศลำดับที่ 3 ของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินทางมาประเทศไทยทั้งหมด และคาดว่าปี 2567 ประเทศไทยจะได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอินเดียกว่า 2 ล้านคน โดยจังหวัดภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียอันดับที่ 3 รองจากกรุงเทพมหานคร และชลบุรี
ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวกัมพูชามีอัตราการเติบโตค่อนข้างทรงตัว ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2567 นักท่องเที่ยวกัมพูชาเที่ยวไทยสะสมอยู่ที่ 453,673 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เดินทางด้วยตนเอง และเดินทางซ้ำ (Re-visit) ถึงร้อยละ 89.80 รวมทั้งนิยมเดินทางรูปแบบ Overland ผ่านด่านทางบก โดยเฉพาะด่านอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อมาท่องเที่ยวพักผ่อน รักษาสุขภาพ เยี่ยมญาติ ชอปปิง และทำธุรกิจ ในพื้นที่กรุงเทพ ชลบุรี สระแก้ว และปทุมธานี ทั้งนี้ ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการยกเว้นการยื่นรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร (ตม.6) ข้อได้เปรียบจากการเดินทางระยะใกล้และความคุ้นเคยของวัฒนธรรมรวมทั้งการเชื่อมโยงเส้นทางการบินเสียมราฐ-ภูเก็ต ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย จะเป็นโอกาสให้นักท่องเที่ยวกัมพูชาศักยภาพเดินทางเข้าประเทศไทยตามเป้าหมาย 605,000 คน และสร้างรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยว 31,340 ล้านบาท ตลอดปี 2567