นางจิระวดี คุณทรัพย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ททท. กล่าวว่า ททท. เดินเกมรุกเชิงนโยบายลุยตลาดยุโรปเต็มรูปแบบ พร้อมสร้างแต้มต่อให้ผู้ประกอบการไทย กับโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว Green Tourism อย่างยั่งยืน ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการแข่งขันสินค้าและบริการท่องเที่ยวยั่งยืนของประเทศไทย เพื่อรองรับการบังคับใช้กฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรป (EU) คือ CSRD (Corporate Sustainability Reporting Directive) และ CSDDD (Corporate Sustainability Due Diligence) กำหนดให้ธุรกิจใน EU ทำงานกับเฉพาะคู่ค้าที่มีมาตรฐานการจัดการด้านความยั่งยืน
โดย ททท. ได้ทำการสำรวจข้อมูลตลาดจากนักท่องเที่ยวยุโรปและความต้องการของบริษัทท่องเที่ยวเพื่อนำมาเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการดังกล่าว พร้อมคัดสรรสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการที่มีการบริหารจัดการความยั่งยืนตรงตามมาตรฐานของ EU มาจัดทำเป็นเส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืนครอบคลุมตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน Sustainable Supply Chain ไม่ว่าจะเป็น Green Accommodation, Green Attraction, Green Activity, Green Restaurant, Green Shop, Green Tour Operator จำนวน 20 เส้นทางใน 10 จังหวัดเมืองกรีนซิตี้ นอกจากนี้ ททท. ยังบูรณาการความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน 3 จังหวัดนำร่อง Green Mayor ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ และกระบี่ ร่วมขับเคลื่อนนโยบายความยั่งยืนในระดับพื้นที่ สร้างแบรนด์เมืองท่องเที่ยวสีเขียวที่มีอัตลักษณ์ชัดเจนสู่การเป็นต้นแบบระดับภูมิภาค ทั้งนี้ ททท. เชื่อมั่นว่าการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะเป็นฟันเฟืองสำคัญนำไปสู่การขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมต่อยอดเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่นทั่วประเทศ เพื่อผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนชั้นนำของโลก
สำหรับ “Thailand Green Tourism Collections” นำเสนอ 20 เส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืนที่โดดเด่นด้วยแนวคิดที่หลากหลายเพื่อรองรับความสนใจของนักท่องเที่ยวจากกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันจาก 10 เมือง กรีนซิตี้ (Green Cities) ของประเทศไทย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ น่าน สุโขทัย นครราชสีมา เลย ตราด กระบี่ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี ซึ่งเมืองทั้ง 10 แห่งนี้ได้รับการคัดเลือกจากบริษัทท่องเที่ยวในสหภาพยุโรป (EU) ว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่มีศักยภาพด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวยุโรปได้อย่างครบถ้วน โดยเส้นทางท่องเที่ยวได้ออกแบบให้สอดคล้องกับแนวคิด “5 Must Do in Thailand” ได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อาหารถิ่น วิถีธรรมชาติ การผจญภัยแบบ Soft Adventure ความหรูหราอย่างยั่งยืน (Luxury & Wellness) งานหัตถศิลป์ (Craft) และประสบการณ์วิถีชุมชนสะท้อนภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนที่มีความหลากหลายทางอัตลักษณ์ และสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่าในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
โดยมีตัวอย่างประสบการณ์ที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
1. กรุงเทพมหานคร Nature in the City, Eco-Soft Adventure, และ Culture & Heritage – ผสานธรรมชาติในเมืองใหญ่กับกิจกรรมผจญภัยและวัฒนธรรมร่วมสมัย
2. จังหวัดน่าน Local Gastronomy และ Culture & Tradition – เส้นทางแห่งรสชาติอาหารถิ่นและมรดกภูมิปัญญาชาวเมืองน่าน
3. จังหวัดเชียงใหม่ Craft & Culture, Gastronomy, และ Nature Positive – ผสมผสานงานคราฟต์ อาหารถิ่น และธรรมชาติอย่างยั่งยืน
4. จังหวัดสุโขทัย Crafted Flavors และ Cultural Heritage – สัมผัสเสน่ห์ไทยที่ถักทอจากวัฒนธรรมอันล้ำค่า
5. จังหวัดเลย Eco-Soft Adventure – เปิดประสบการณ์ผจญภัยเชิงนิเวศในอ้อมกอดธรรมชาติแห่งภูเขา
6. จังหวัดนครราชสีมา Nature Positive และ Sustainable Mindfulness – สายสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติและจิตใจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
7. จังหวัดตราด Digital Detox – ปลดปล่อยจากโลกดิจิทัล สู่อ้อมกอดธรรมชาติที่สงบงาม
8. จังหวัดกระบี่ Eco Luxury & Wellness – ท่องเที่ยวหรูอย่างมีจิตสำนึก พร้อมผ่อนคลายอย่างยั่งยืน
9. จังหวัดพังงา Sustainability Wellness & Voluntourism – การท่องเที่ยวที่มอบคุณค่าแก่ทั้งผู้มาเยือนและชุมชน
10. จังหวัดสุราษฎร์ธานี Eco-Luxury & Eco-Soft Adventure – ความสมดุลระหว่างความหรูหราร่วมสมัยและกิจกรรมกลางธรรมชาติ
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติม 20 เส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืนจาก10 เมืองกรีนซิตี้ของไทย ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว Green Tourism อย่างยั่งยืน ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ที่เว็บไซต์ www.tourismproduct.tourismthailand.org