นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่า ททท. เปิดเผยว่า ททท. เข้าร่วมงาน International Travel Expo Ho Chi Minh City 2025 (ITE HCMC 2025) งานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวและเวทีเจรจาธุรกิจ ที่สำคัญของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 4–6 กันยายน 2568 ณ Saigon Exhibition & Convention Center (SECC) นครโฮจิมินห์ โดยการเข้าร่วมครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม รวมทั้งรักษาฐานตลาดเดิม และส่งเสริมการเดินทางแบบ Two-Way Travel ในกลุ่มประเทศภูมิภาคอาเซียน โดยงาน ITE HCMC 2025 เป็นงานที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ และเป็นเวทีส่งเสริมให้ภาคเอกชนได้พบปะกับภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว ของประเทศต่างๆ กว่า 30 ประเทศทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะมีหน่วยงานภายใต้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเข้าร่วมมากกว่า 520 แห่ง และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 28,000 คน ตลอดการจัดงาน
พิธีเปิดงาน ITE HCMC 2025 ได้รับเกียรติจากนาย Mai Van Chinh รองนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเป็นประธานในการเปิดงาน โดยมี นางสาวอุรวดี ศรีภิรมย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย นางสาววีรกา มุทิตาภรณ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เข้าร่วมและร่วมงานสัมมนา High Level Tourism Forum ภายใต้หัวข้อ Shaping the Future of Tourism: Embracing Digital and Green Transformation” พร้อมกับผู้บริหารระดับสูงจากนานาประเทศ โดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศอาเซียน ในโอกาสนี้ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. ยังได้ร่วมหารือกับนาย Phyo Zaw Soe รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการโรงแรมและการท่องเที่ยว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางในการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน
โดยการเข้าร่วมงาน ITE HCMC 2025 ครั้งนี้ ททท. ได้เชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยจำนวน 6 ราย ครอบคลุมทั้งบริษัทนำเที่ยว โรงแรม แหล่งท่องเที่ยว Fun & Entertainment ได้แก่ MAPLE HOTEL กรุงเทพฯ, Urbana Langsuan Hotel กรุงเทพฯ, Lark Holidays Co.,Ltd. กรุงเทพฯ, Chiang Mai Night Safari เชียงใหม่, Phuket Jet Tour Co., Ltd. ภูเก็ต และ SAii Hotels & Resorts Thailand and Santiburi Koh Samui Hotels & Resorts สุราษฎร์ธานี เข้าร่วมเจรจาธุรกิจแบบ Business to Business (B2B) รวมถึงนำเสนอขายตรงสู่นักท่องเที่ยวในรูปแบบ Business to Consumer (B2C) นอกจากนี้ ททท. ยังเตรียมกิจกรรมถ่ายทอดเสน่ห์วัฒนธรรมไทยให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสใกล้ชิด อาทิ การสาธิตงานศิลป์จากผ้าลายอย่างเมืองเพชรบุรี ได้แก่ การเขียนลายทองด้วยยางมะเดื่อและปิดทองคำเปลวแท้ รวมถึงกิจกรรม DIY ประดิษฐ์ดอกกุหลาบตูมจากผ้าลายอย่าง พร้อมมุมแต่งชุดไทยเพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจตลอดระยะจัดงาน
ตลาดนักท่องเที่ยวเวียดนามนับเป็นตลาดระยะใกล้ที่มีความสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 27 สิงหาคม 2568 ประเทศไทยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเวียดนามแล้วกว่า 473,645 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มศักยภาพ ได้แก่ กลุ่มครอบครัว, กลุ่มมิลเลนเนียล และกลุ่มไมซ์ ซึ่งมีพฤติกรรมนิยมเดินทางมาประเทศไทยปีละ 3–4 ครั้ง อีกทั้งยังมีทัศนคติที่ดีต่อการท่องเที่ยวไทย โดยนิยมเดินทางช่วงมิถุนายน -สิงหาคม ซึ่งตรงกับช่วงปิดภาคเรียน และเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ และภูเก็ต ขณะเดียวกันยังมีการกระจายการเดินทางไปยังจังหวัดอื่นๆ เช่น กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา (เขาใหญ่) และพังงา เพิ่มมากขึ้น
โดยในปี 2568 ตลาดเวียดนามยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากหลายปัจจัยสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็น ทั้งศักยภาพของเส้นทางบินตรง 5 เส้นทางจาก 6 เมืองในเวียดนาม ได้แก่ โฮจิมินห์ ฮานอย ดานัง นาตรัง ฟูก๊วก และไฮฟอง เชื่อมเข้าสู่ 3 เมืองหลักของไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ โดยมีจำนวนเที่ยวบินตลอดปี 2568 จำนวน 13,417 เที่ยวบิน เฉลี่ยประมาณเดือนละ 1,128 เที่ยวบิน/เดือน นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจเวียดนามที่เติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนมีกำลังซื้อสูงขึ้น รวมทั้งมุมมองที่ดีของนักท่องเที่ยวเวียดนามที่เห็นประเทศไทยเป็น LGBT-Friendly Destination รวมถึงจุดแข็งเดิมของไทย ทั้งการเดินทางสะดวกสบายโดยไม่ต้องใช้วีซ่า ระบบขนส่งในกรุงเทพฯ ที่เอื้อต่อการท่องเที่ยวด้วยตนเอง ความหลากหลายของการชอปปิงและไลฟ์สไตล์ยามค่ำคืน ตลอดจนมิตรไมตรีของคนไทย
ททท. เดินหน้าส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวเวียดนามอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งสร้างสรรค์และส่งมอบประสบการณ์ผ่านกลยุทธ์ 5 Must Do in Thailand นำเสนอวิธีการเดินทางท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรถ ราง หรือเรือ การอำนวยความสะดวกต่อการเปิดเส้นทางการบินใหม่ร่วมมือกับพันธมิตร อาทิ สายการบินแอร์เอเชีย เส้นทางกรุงเทพฯ – ไฮฟอง เมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ให้บริการ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (จันทร์ พุธ ศุกร์ อาทิตย์) อีกทั้งการจัดกิจกรรม “Thái Lan, càng hiểu càng yêu – ไทยแลนด์ ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักเธอ” เพื่อสร้างการรับรู้และภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทย ควบคู่ไปกับการเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–เวียดนาม ในปี 2569 เพื่อมอบสิทธิพิเศษสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวไทยแก่นักท่องเที่ยวเวียดนาม 500 คน จากปัจจัยเหล่านี้ ททท. คาดว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยได้ไม่น้อยกว่า 900,000 คน ในปี 2569