ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก เมื่อคืนวันที่ 22 ตุลาคม 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,746.69 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +23.44 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.9% ส่งผลทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ และเป็นครั้งที่ 5 ในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ ส่งผลราคาปิดขึ้น 6 วันติดกันรวม +96.69 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +3.8% ขณะที่ ราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นแตะระดับ 2,740.37 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,759.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +20.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.8% ส่งผลทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ และเป็นครั้งที่ 4 ในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ ราคาทองคำปิดขึ้น 6 วันติดกันรวม +92.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +3.1%
อย่างไรก็ตาม ในด้านการวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค พบว่า ดัชนีค่าความแข็งแกร่งราคาทองคำเมื่อเปรียบเทียบ หรือ Relative Strength Index (RSI) อยู่ที่ระดับ 74 จุด หมายถึงราคาทองคำเข้าสู่ภาวะซื้อลงทุนมากเกินปัจจัยแท้จริง ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำโลกพุ่งทะยานถึง +2.4% พบว่านับตั้งแต่ต้นปีนี้ราคาทองคำพุ่งทะยานกว่า 33%
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัขึ้ัฐอ่อนค่าและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลง สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอเลาะห์กลายเป็นเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากกลุ่มฮิซบอเลาะห์ติดอาวุธที่อยู่ในประเทศเลบานอน เปิดเผยว่าทางกลุ่มกำลังเข้าสู่ช่วงการทำสงครามใหม่กับอิสราเอล ในขณะที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่า การสังหารนายยาห์ย่า ซิลวาร์ ผู้นำระดับสูงและผู้วางแผนโจมตีคร่าชีวิตประชาชนชาวอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 นั้น สงครามจะไม่มีวันจบสิ้น และจะเปิดปฏิบัติการเข้มข้นในการทำสงครามกับเลบานอนและฉนวนกาซาก
นักลงทุนให้น้ำหนักปัจจัยการเมืองสหรัฐที่ใกล้วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ โดยคะแนนนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้คะแนนนิยมของนางกมลา แฮร์ริส นำอย่างเบาบาง ที่ 46% ต่อ 43% ตามลำดับ
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ มีโอกาสที่ 85% จากเดิมที่ 96% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลดลง 0.25%