ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก เมื่อคืนวันที่ 18 ตุลาคม 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,720.05 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +28.01 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.0% ส่งผลทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ และเป็นครั้งที่สองในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ ส่งผลราคาปิดขึ้น 4 วันติดกันรวม +70.05 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.9% ในเดือนกันยายนผ่านไป ราคาทองคำ Gold Spot สร้างสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์รวม 8 ครั้ง
สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,730.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +22.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.8% ส่งผลทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ และเป็นครั้งที่สองในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ ราคาทองคำปิดขึ้น 4 วันติดกันรวม +62.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.0% ในเดือนกันยายนผ่านไป ราคาทองคำ Gold Future สร้างสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์รวม 6 ครั้ง
ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำโลกพุ่งทะยานถึง +2.4% พบว่านับตั้งแต่ต้นปีนี้ราคาทองคำพุ่งทะยานกว่า 31%
สาเหตุจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอเลาะห์กลายเป็นเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากกลุ่มฮิซบอเลาะห์ติดอาวุธที่อยู่ในประเทศเลบานอน เปิดเผยว่าทางกลุ่มกำลังเข้าสู่ช่วงการทำสงครามใหม่กับอิสราเอล ในขณะที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่า การสังหารนายยาห์ย่า ซิลวาร์ ผู้นำระดับสูงและผู้วางแผนโจมตีคร่าชีวิตประชาชนชาวอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 นั้น สงครามจะไม่มีวันจบสิ้น และจะเปิดปฏิบัติการเข้มข้นในการทำสงครามกับเลบานอนและฉนวนกาซา
นักลงทุนให้น้ำหนักปัจจัยการเมืองสหรัฐที่ใกล้วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ โดยคะแนนนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ทิ้งห่างมากขึ้นจากนางกมลา แฮร์ริส เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่อเนื่อง พร้อมกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ มีโอกาสที่ 96% จากเดิมที่ 90% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลดลง 0.25%