ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก เมื่อคืนวันที่ 25 กันยายน 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,662.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +5.62 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.2% ส่งผลราคาปิดขึ้น 6 วันติดกันรวม +68.47 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.3% ส่งผลเป็นราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ และเป็นราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งที่ 7 ในเดือนกันยายน สำหรับสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เดิมอยู่ที่ 2,656.38 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งเกิดขึ้นในคืนผ่านมา 24 กันยายน 2024
สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,677.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -2.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.1% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 5 วันติดกันรวม +85.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.9% ส่งผลหยุดราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งที่ 5 ในเดือนกันยายน สำหรับราคานิวไฮเดิมอยู่ที่ 2,680.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กันยายนผ่านมา
ในแง่ผลตอบแทน พบว่า ราคาทองคำโลกพุ่งทะยานกว่า 28% นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงขณะนี้ นอกจากนี้ ราคาทองคำปีนี้มีแนวโน้มสูงที่จะให้ผลตอบแทนรายปีที่ดีที่สุดในรอบ 14 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา
สาเหตุจากสาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกแข็งค่าขึ้นหลังจากร่วงลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 14 เดือน ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น หลังจากนักลงทุนทำกำไรระยะสั้น กลางราคาทองคำตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นถึง 5 วันติดต่อกัน นักลงทุนรอฟังการแถลงมุมมองเศรษฐกิจของประธานธนาคารกลางสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ และวันศุกร์จะมีการประกาศตัวเลขรายจ่ายส่วนบุคคลชาวอเมริกันเดือนสิงหาคม
สถานการณ์ตอบโต้ระหว่างกลุ่มฮิซบอเลาะห์และอิสราเอลมีความรุนแรงมากขึ้นต่อเนื่อง เลบานอน อ้างว่าการโจมตีเมื่อวานนี้ของอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 558 ราย ส่งผลให้กลายเป็นวันการโจมตีที่รุนแรงถึงชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่ยุคสงครามกลางเมืองในช่วงระหว่าง 1975-1990 หรือในรอบเกือบ 30 ปี
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ มีโอกาสที่ 59% จากเดิมที่ 37% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลดลง 0.5% และมีโอกาสที่ 41% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลง 0.25%