ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่า วันที่ 4 สิงหาคม 2025 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 3,372.15 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +24.99 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.3% ส่งผลเป็นราคาปิดสูงสุดในรอบ 12 วัน หรือนับตั้งแต่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ราคาปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +96.73 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.7%
สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 3,426.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +26.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.8% ราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +77.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.3%
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกอ่อนค่าลง กระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกา เปิดเผยตัวเลขยอดการจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตรเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 73,000 คน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 คน นอกจากนี้ตัวเลขดังกล่าวในเดือนมิถุนายนได้ปรับปรุงใหม่ ซึ่งพบว่ามียอดการจ้างงานดังกล่าวเพิ่มขึ้นเพียง 14,000 คน ซึ่งต่ำกว่าเดิมที่เคยประกาศไว้ สะท้อนถึงภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐอเมริกาที่อ่อนแอลงอย่างมาก
ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 ครั้ง จากเดิมที่ประเมินว่าจะมีเพียง 1 ครั้งเท่านั้น ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมผ่านมา ซึ่งสิ้นสุดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐและตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นต่อเนื่องที่ 4.25-4.50% นั้น นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด กล่าวเฟดยังไม่รีบร้อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประชุมเดือนกันยายน
ด้านประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศอัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs กับหลายประเทศเกือบทั่วโลก ซึ่งมีการปรับขึ้นอัตราภาษีดังกล่าวกับประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ถูกเก็บอัตราภาษีสูงถึง 39% แคนาดาถูกขึ้นภาษีสูงขึ้นเป็น 35% ประเทศอินเดียถูกเก็บภาษีสูงถึง 25% หรือแม้แต่อัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดอยู่ที่ 41% ประกาศเก็บกับซีเรีย ทำให้หลายประเทศยังคงเดินหน้าเจรจาภาษีดังกล่าวกับสหรัฐอเมริกาต่อไปส่งผลให้ยังคงมีความไม่ชัดเจนและความเสี่ยง นอกจากนี้ ทำให้เกิดความกังวลว่าอัตราภาษีต่างตอบแทนดังกล่าว ซึ่งประกาศใช้เกือบทั่วโลกจะมีผลต่อสภาพเศรษฐกิจโลก