ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่าวันที่ 11 เมษายน 2025 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 3,235.89 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +75.07 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.0% ส่งผลทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ขณะที่เมื่อคืนผ่านมามีราคาสูงสุดระหว่างเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ที่ระดับ 3,245.48 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นอกจากนี้ ส่งผลราคาปิดขึ้น 4 วันติดกันรวม +272.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +7.5%
ในรอบสัปดาห์นี้ ทองคำมีราคาต่ำสุดระหว่างวันลงแตะระดับ 2,955.89 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันที่ 27 มีนาคม 2025 ทองคำราคาส่งมอบทันที(Spot)ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่เกิดขึ้น 22 ครั้ง และมีราคาทะยานขึ้นกว่า 20% นอกจากนี้ สิ้นสุดไตรมาสที่ 1 พบว่าราคาทองคำพุ่งดีที่สุดในรอบ 39 ปี หรือตั้งแต่ปี 1986 ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคมผ่านมา เป็นวันแรกที่ราคาทองคำปิดแตะหลัก 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 3,244.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +67.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.1% ส่งผลทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ และส่งผลราคาปิดขึ้น 4 วันติดกันรวม +271.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +8.8% ราคาทองคำล่วงหน้า (Future) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ และเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 18 ในปี 2025 นี้ นอกจากนี้ ครั้งสุดท้ายที่ทองคำมีราคาปิดนิวไฮเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายน ปิดที่ระดับ 3,177.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ขณะที่เมื่อวันที่ 14 มีนาคม เป็นครั้งแรกที่มีราคาปิดแตะหลัก 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และปิดที่ระดับ 3,001.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำพุ่งทะยาน +6.0% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ราคาทองคำพุ่งทะยานกว่า 20%
สาเหตุจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประเทศจีน แถลงประกาศใช้มาตรการอัตราภาษีนำเข้าสูงขึ้น 41% จากเดิมที่ได้ประกาศไปให้ขึ้นเป็น 84% ส่งผลรวมเป็นขึ้นภาษี 125% กับสินค้าทุกชนิดที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นการตอบโต้หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ประกาศขึ้นภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariifs สูงขึ้นเป็น 145% กับสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีนทั้งนี้มาตรการตอบโต้ของกระทรวงการคลังจีนจะมีผลตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2025 เป็นต้นไป