ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่า วันที่ 2 ธันวาคม 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,636.54 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -23.74 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.6% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำปิดร่วงลงกว่า -2% และสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายนนี้ ราคาทองคำร่วงกว่า -3% ทำสถิติราคาทองคำที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 1 ปี 2 เดือน หรือตั้งแต่กันยายนปี 2023 เป็นต้นมา
สำหรับราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Spot สูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,790.15 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ทำสถิติราคาส่งมอบทันที (Spot) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เกิดขึ้นรวมทั้งหมด 7 ครั้งในเดือนตุลาคม
สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 2,658.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -26.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.8% ในเดือนตุลาคมที่ผ่านไป ทำสถิติราคาทองคำล่วงหน้า (Future) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เกิดขึ้นรวมทั้งหมด 6 ครั้ง โดยมีราคาล่วงหน้า (Future) สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,800.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2024
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทะยานแข็งค่ามากถึง 0.7% ทำสถิติแข็งค่าใน 1 วันที่มากที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือน หลังจากว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเตือนกลุ่มเศรษฐกิจบริคส์ (BRICS) ซึ่งมีสมาชิกทั้ง 9 ประเทศ เช่น จีน รัสเซีย เป็นต้น จะถูกเก็บภาษีสินค้านำเข้าขึ้นถึง 100% หากพยายามจะสร้างสกุลเงินใหม่ หรือพยายามจะไม่ใช่เงินดอลลาร์สหรัฐ
ตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ มีโอกาสที่ 64% จากเดิมที่ 70% ที่เฟดดอกเบี้ยจะปรับลง 0.25%
สำหรับราคาทองคำในช่วงแต่ละยุคสมัยของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐใน 8 ปีผ่านมา พบว่าในช่วงเทอมที่ 1 ของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 นายโดนัลด์ ทรัมป์ พบว่าราคาทองพุ่งสูงถึง 54% ในระหว่างปี 2016-2020 ต่อมาในช่วงประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 นายโจ ไบเดน พบว่าราคาทองพุ่งสูงถึง 50% ในระหว่างปี 2020-2024