ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่า วันที่ 22 ธันวาคม 2025 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 4,434.26 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +87.19 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.2% ไม่เพียงทำสถิติราคาปิดเหนือ 4,400 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์เป็นครั้งแรก แต่ยังทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันรวมกัน +103.87 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.6% ขณะที่ราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นแตะ 4,441.92 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่
ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 4,469.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +82.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.9% ไม่เพียงทำสถิติราคาปิดเหนือ 4,400 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์เป็นครั้งแรก แต่ยังทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่เป็นครั้งที่ 3 ในธันวาคมนี้ มีดังนี้ 17: 4,373.90 วันที่ 19: 4,387.30 และวันที่ 22: 4,469.40 และส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันรวมกัน +104.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.4%
ในสัปดาห์ผ่านไปราคาทองคำโลกปิดขึ้นกว่า 1.1% นับเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน ตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงปัจจุบัน ราคาทองคำโลกพุ่งทะยานกว่า +69% ทำสถิติราคาทองคำโลกดีที่สุดในรอบ 46 ปี หรือตั้งแต่ปี 1979
สาเหตุจากสถานการณ์ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาสั่งหน่วยป้องกันชายฝั่งแห่งชาติสหรัฐอเมริกาเข้าปิดกั้นเรือขนส่งน้ำมันดิบลำที่ 3 ที่เข้าออกน่านน้ำประเทศเวเนซุเอลา ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าครั้งใหม่ ก่อนหน้านี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่ามากสุดในรอบ 2 เดือน ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถูกปรับลดลงรวมทั้งหมด 3 ครั้งในปี 2025 มาอยู่ที่ระดับ 3.25 ถึง 3.50% ทำสถิติอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดในรอบมากกว่า 4 ปี
นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 2 ครั้งๆ ละ 0.25% ในปี 2026 ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟด หรือ ซีเอ็มอี วอทช์ ในการประชุมเดือนมกราคม 2026 ปรากฎว่า มีโอกาสอยู่ที่ 58.3% จากเดิมที่ระดับ 53.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ในขณะที่ มีโอกาสอยู่ที่ 73% ที่เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว อย่างไรก็ตาม โอกาสดังกล่าวมีมากถึง 83% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมเดือนมิถุนายนในปี 2026