สมาคมค้าทองคำประกาศราคาขายทองคำในประเทศไทย รายงานว่าวันนี้ 30 สิงหาคม 2025 เปิดตลาดเมื่อเวลา 9.06 น. ปรับราคา +350 บาท ทองคำแท่งรับซื้อ 52,500 บาท ราคาขายออก 52,600 บาท ด้านทองรูปพรรณรับซื้อ 51,453.04 บาท ราคาขายออก 53,400 บาท ส่งผลเป็นราคาทองคำสูงสุดใน 2 เดือนเศษ หรือตั้งแต่ 25 เมษายน ผ่านมา นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 22 เมษายน 2025 จากราคาทองคำสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ในไทย พบว่า ราคายังห่างอีก 1,800 บาท หรือ -3.30% ขณะที่นับตั้งแต่ต้นปี 2568 นี้มาถึงราคาเปิดตลาดวันนี้ 30 สิงหาคม 2025 ราคาทองคำในไทยเพิ่มขึ้น +10,200 บาท หรือทะยานถึง +24.05%
ด้านราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Spot ที่ประเทศสิงคโปร์ เปิดที่ระดับ 3,448.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงราคาเปิดตลาดวันนี้ 30 สิงหาคม 2025 ส่งผลราคาทองคำดังกล่าวทะยานถึง +838.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +32.13% ท่ามกลางค่าเงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐเปิดที่ตลาดต่างประเทศที่ระดับ 32.26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ในคืนผ่านมา ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่า วันที่ 29 สิงหาคม 2025 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 3,443.19 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +27.05 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.8% ปิดสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์กว่า หรือตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคมผ่านมา นอกจากนี้ มีราคาปิดขึ้น 4 วันติดกันรวม +70.42 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.4% ส่งผลให้เดือนสิงหาคมนี้ ราคาทองคำปรับเพิ่มสูงขึ้นถึง 4.7% ส่งคนเป็นราคาทองคำรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบสี่เดือนที่ผ่านมาหรือนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 และยังเป็นราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน
สาเหตุจากตัวเลขรายจ่ายส่วนบุคคลชาวอเมริกันในเดือนกรกฎาคม พบว่า เพิ่มขึ้น 0.2% เทียบกับเดือนก่อนหน้านั้น และเพิ่มขึ้น 2.6% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ปัจจัยการเมืองในสหรัฐอเมริกาได้รับการประเมินว่ามีความไม่แน่นอนต่อสถาบันกำกับดูแลนโยบายการเงินอิสระ ได้แก่ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเเฟด นักลงทุนติดตามว่าศาลรัฐบาลกลางจะพิจารณาคำตัดสินรับหรือไม่รับการยื่นฟ้องร้องของประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ดำเนินการตามช่องทางกฎหมายไล่ออกนางลิซา คุก กรรมการในคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด หลังได้รับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการได้เงินกู้ที่อยู่อาศัยอย่างมิชอบ เงินดอลลาร์สหรัฐพลิกอ่อนค่าลง ส่งผลในสิงหาคมนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐร่วง 2.2% และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับลดลง
