วันนี้ 14 ธันวาคม 2568 เวลา 11.50 น. กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่าฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธจรวด BM-21 โจมตีเข้าใส่พื้นที่ ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งอยู่บริเวณใจกลางแหล่งชุมชนและโรงเรียน เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 1 ราย (นายดร ปัจฉาพันธ์ อายุ 63 ปี) จากสะเก็ดระเบิด พร้อมส่งผลให้เกิดไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงเสียหาย 1 หลัง ส่วนรายละเอียดผู้บาดเจ็บกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
กองทัพบกขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชาต่อเวทีประชาคมระหว่างประเทศ ที่ยังคงใช้อาวุธโจมตีใส่พื้นที่พลเรือนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหารเป็นวันที่สอง เป็นเหตุให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นหลักฐานที่ชี้ชัดถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาที่ละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างร้ายแรง
เมื่อเวลา 13.30 น. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าในส่วนของกองทัพบก ไม่เคยกล่าวถึงหรือมีแนวการปฏิบัติหยุดยิงในเรื่องนี้ เนื่องจากปัจจุบันกัมพูชายังคงใช้อาวุธหนัก จรวด BM-21, เครื่องยิงลูกระเบิด และโดรนพลีชีพ โจมตีต่อกำลังทหารไทยในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงของประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวไทยอย่างร้ายแรง
พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ติดตามสถานการณ์และมอบแนวทางการปฏิบัติเฉพาะส่วนอย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันยืนยันว่ายังไม่ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติการของหน่วยในพื้นที่การรบแต่อย่างใด โดยยังคงสั่งการให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบตลอดแนวชายแดน เดินหน้าปฏิบัติการตามแผนที่กำหนด พร้อมบูรณาการร่วมกับเหล่าทัพ และหน่วยงานอื่นๆ ในการปฏิบัติอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับให้กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 เน้นย้ำกำลังพลเรื่องการปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย ดำเนินกลยุทธ์ด้วยความรอบคอบ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายหลักคือ การผลักดันและมุ่งทำลายขีดความสามารถทางการทหารของกัมพูชา ทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รวมถึงองค์ประกอบสนับสนุนอื่นๆ พร้อมยืนยันว่ากองทัพบกไทยโจมตีต่อเป้าหมายทางทหารที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเพียงเท่านั้น และการสถาปนาพื้นที่ เข้าควบคุมบริเวณที่เคยมีการรุกล้ำเขตอธิปไตยไทย และเสริมความมั่นคงให้มีความสมบูรณ์ เอื้อต่อการปฏิบัติการทางทหารต่อไปในอนาคต
กองทัพบกขอยืนยันในปฏิบัติการครั้งนี้ว่ายังคงดำเนินการต่อเนื่องจนกว่ากัมพูชาหยุดความเป็นปรปักษ์ โจมตีต่อกำลังทหารไทยและประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากำลังพลและยุทโธปกรณ์ของกองทัพบก พร้อมตรึงกำลังการปฏิบัติ และตอบโต้ตามกฎการใช้กำลังตามแผนปฏิบัติการที่กำหนดและเป็นไปตามหลักกติกาสากล เพื่อพิทักษ์รักษาเอกราช และดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนชาวไทยอย่างเต็มขีดความสามารถ