ทีทีบี ชี้คนไทยเผชิญภาวะ “แก่แต่ยังเป็นหนี้” รายได้ไม่เพิ่มแต่ค่าครองชีพสูงขึ้น ดันหนี้ครัวเรือนสูง 16.3 ล้านล้านบาท 89% ของ GDP เอสเอ็มอีล้ม แนะเร่งมาตรการช่วยเหลือเป็นรูปธรรม

ทีทีบี ชี้คนไทยเผชิญภาวะ "แก่แต่ยังเป็น หนี้ " รายได้ไม่เพิ่มแต่ค่าครองชีพสูงขึ้น ดัน หนี้ ครัวเรือนสูง 16.3 ล้านล้านบาท 89% ของ GDP เอสเอ็มอีล้ม แนะเร่งมาตรการช่วยเหลือเป็นรูปธรรม

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยว่าเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งความขัดแย้งทางการเมืองที่ทวีความรุนแรง สงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจ ทำให้ทั้งภาคธุรกิจและประชาชนเผชิญภาระทางการเงินหนักขึ้น

สำหรับประเทศไทยปัญหาเชิงโครงสร้างยังคงเรื้อรัง คนไทยเผชิญภาวะ “แก่แต่ยังเป็นหนี้” รายได้ไม่เพิ่มแต่ค่าครองชีพสูงขึ้น ธุรกิจ SME ถูกดิสรัป เข้าถึงแหล่งทุนได้ยากขึ้น และธุรกิจต้องปิดตัวลงมากขึ้น เนื่องจากรายได้ครัวเรือนและธุรกิจโตตามค่าใช้จ่ายไม่ทัน จากค่าครองขีพที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ต้องกู้มาจ่าย จนเกิดปัญหารายได้ครัวเรือน จนทำให้ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 16.3 ล้านล้านบาท หรือ 89% ของ GDP

สถานการณ์เหล่านี้สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการมีมาตรการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจสามารถกลับมาตั้งหลักทางการเงินได้อีกครั้ง

โดยสัดส่วนสินเชื่อของลูกค้าทีทีบีปัจจุบัน จากข้อมูลที่ลูกร้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” พบว่า 58% เป็นคนมีบ้าน ,54% เอสเอ็มอี ,19% คนมีรถ ,13% สินเชื่อบุคคล

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังเต็มไปด้วยความผันผวน ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ประกาศแผนกลยุทธ์ ปี 2568 ภายใต้แนวคิด “The MEANINGFUL Change” ตอกย้ำปรัชญาในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย ผ่านโปรแกรมช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อ ทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจให้สามารถปลดหนี้และฟื้นตัวได้ พร้อมเติบโตได้อย่างมั่นคง อีกทั้งเดินหน้ายกระดับดิจิทัลโซลูชันเพื่อให้บริการทางการเงินที่เข้าถึงง่าย สะดวก คุ้มค่าและเป็นมากกว่าการทำธุรกรรม

ตั้งแต่ปี 2563 ที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 และยังคงเดินหน้าพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ช่วยให้ลูกค้าจัดการภาระหนี้ได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ผ่านบริการรวบหนี้ที่ช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้ลูกค้าไปแล้วกว่า 2,240 ล้านบาท สินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ที่ให้พนักงานเงินเดือนองค์กรเข้าถึงสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า โดยปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือแล้วกว่า 8,800 ล้านบาท อีกทั้งยังมีโปรแกรม Financial Literacy ที่ประกอบด้วยแพลตฟอร์มตรวจสุขภาพการเงินออนไลน์ที่มีลูกค้าเข้าร่วมวัดระดับหนี้กว่า 96,000 ครั้ง คอร์สให้ความรู้ทางการเงินออนไลน์และบริการให้คำปรึกษาโค้ชปลดหนี้ โดยทั้งหมดนี้ให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย จนกระทั่งล่าสุดกับโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ที่ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้าสามารถตั้งหลักใหม่ได้

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles