ทุบทองคำไทยดิ่งสุทธิ -850 บาท ทองแท่ง 51,100 รูปพรรณ 51,900 รับแถลงข่าวสหรัฐกับจีนลดภาษีนำเข้าสินค้าฝ่ายละ 115% มีผลชั่วคราว 90 วัน

ทุบ ทองคำไทย ดิ่งสุทธิ -850 บาท ทองแท่ง 51,100 รูปพรรณ 51,900 รับแถลงข่าวสหรัฐกับจีนลดภาษีนำเข้าสินค้าฝ่ายละ 115% มีผลชั่วคราว 90 วัน

สมาคมค้าทองคำประกาศราคาขายทองคำในประเทศไทย รายงานว่าวันนี้ 12 พฤษภาคม 2025 ประกาศราคาครั้งที่ 14 เมื่อเวลา 14.57 น. -50 บาท ส่งผลราคาลดลงสุทธิ -850 บาท ทองคำแท่งรับซื้อ 51,000 บาท ราคาขายออก 51,100 บาท ด้านทองรูปพรรณรับซื้อ 50,088.64 บาท ราคาขายออก 51,900 บาท ส่งผลเป็นราคาทองคำสูงสุดในรอบมากกว่า 8 วันผ่านมา หรือตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2025

เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 22 เมษยน 2025 จากราคาทองคำสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ในไทย พบว่า ราคายังห่างอีก 3,300 บาท หรือ -6.06% ขณะที่นับตั้งแต่ต้นปี 2568 นี้มาถึงราคาเปิดตลาดวันนี้ 12 พฤษภาคม 2025 ราคาทองคำในไทยเพิ่มขึ้น +8,700 บาท หรือทะยานถึง +20.51%

ด้านราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Spot ที่ประเทศสิงคโปร์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,224 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ร่วงลงมากถึง -55 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.67% นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันนี้ 12 พฤษภาคม 2025 ส่งผลราคาทองคำดังกล่าวทะยานถึง +614.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +23.54% ท่ามกลางค่าเงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐเปิดตลาดในต่างประเทศที่ระดับ 33.43 บาท ร่วงอ่อนค่ารุนแรงถึง 40 สตางค์

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในเอเชียแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือน หลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสก๊อต เบสเซนท์ และนายเจมีสัน กรีเออร์ หัวหน้าสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกาหรือยูเอสทีอาร์ ร่วมแถลงรายละเอียดของผลการเจรจาข้อตกลงภาษีและการค้าในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาในสวิสเซอร์แลนด์ โดยทั้งรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลจีนเห็นตรงกันให้มีการลดอัตราภาษีต่างตอบแทนลงฝ่ายละ 115% และมีผลบังคับใช้ชั่วคราวเป็นเวลา 90 วันเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป

ราคาทองคำไทยตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคม 2025 พบว่า ราคาทองคำในประเทศไทยเพิ่มขึ้น +2,050 บาทต่อบาททองคำ หรือ +4.83% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาทองคำไทยในเดือนมกราคม 2023 พบว่า ในช่วงเวลานั้นทองคำเพิ่มขึ้นเบาบางเพียง +550 บาท/บาททองคำ หรือ +1.63% นั่นหมายถึง ราคาทองคำไทยในเดือนมกราคมปีนี้เพิ่มขึ้น 1,500 บาท/บาททองคำ หรือเพิ่มขึ้น +3.20% เทียบกับมกราคมในปี 2024

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles