กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.00-32.65 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 32.36 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 32.27-32.56 บาท/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์แข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่
ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ คุกคามความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างต่อเนื่อง ด้วยการสั่งปลดสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด โดยอ้างว่ามีพฤติกรรมฉ้อโกง ด้วยการให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย
ด้านสมาชิกคณะกรรมการนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ตอกย้ำแนวคิดที่ว่า หากแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นไปตามที่คาดไว้ บีโอเจ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะถัดไป ขณะที่ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรฝรั่งเศส กับเยอรมัน แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองในฝรั่งเศส
อย่างไรก็ดี แรงขายเงินยูโร ถูกจำกัดโดยอิทธิพลจากความเสี่ยงเชิงลบของเงินดอลลาร์ โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 12,393 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 2,627 ล้านบาท ทั้งนี้ ในเดือนส.ค. เงินหยวนจีนแข็งค่านำสกุลเงินภูมิภาค ขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น 0.9%
สำหรับในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงตัวเลขภาคบริการ และรายงานตำแหน่งจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. เพื่อประเมินการลดดอกเบี้ยของเฟดในช่วงที่เหลือของปี 68 ต่อเนื่องปี 69 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดส่งสัญญาณชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการเปิดทางลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
“โดยในภาพรวม เรามองว่า ประเด็นการแทรกแซงเฟดของประธานาธิบดีทรัมป์ และการที่จีนปล่อยเงินหยวนแข็งค่าขึ้น จะทำให้ sentiment ของเงินดอลลาร์ยังคงเปราะบาง สำหรับปัจจัยในประเทศ ตลาดจะติดตามอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. และความชัดเจนทางการเมือง”