คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางกลุ่มประเทศยูโรโซน หรืออีซีบี แถลงว่ามีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงอีก 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลดลงจาก 3.25% มาอยู่ที่ระดับ 3.0% ซึ่งนับเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันนับตั้งแต่อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวในเดือนมิถุนายนอยู่ในระดับ 4.0% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของกลุ่มยูโรโซน นอกจากนี้ อีซีบียังได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืม ให้กับธนาคารพาณิชย์ระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ ลงมาเหลือที่ระดับ 3.15% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ระยะเวลา 1 วันลงมาเหลือที่ระดับ 3.40%
อีซีบีได้เปิดเผยต่อไปว่า หลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงต่อเนื่องถึง 4 ครั้งในปีนี้นั้น แนวโน้มการผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยยังคงมีอยู่ แต่จะดำเนินการเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปเมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงที่ผ่านมา
นางคริสทีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางอีซีบี กล่าวว่า ภาวะความขัดแย้งทางด้านการค้าโลก อาจกลายเป็นปัจจัยที่มีน้ำหนักทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรอยู่ในสภาวะอ่อนแอลง ในเวลาเดียวกันความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในภาพรวมได้กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของภาวะเงินเฟ้อในอนาคต นอกจากนี้สถานการณ์เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรโซนทั้งหมด 20 ประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองของชาติสมาชิกขนาดใหญ่ เช่นประเทศฝรั่งเศส ที่ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการออกมา ทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสในปัจจุบันไม่มีเสถียรภาพ
นอกจากนี้จะมีการเลือกตั้งทั่วไปที่เกิดขึ้นในประเทศเยอรมนี ที่สำคัญว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศนโยบายภาษีนำเข้าสินค้ากับกลุ่มสหภาพยุโรป รวมถึงกลุ่มประเทศยูโรโซนอย่างชัดเจน