ธนาคารกลางจีนซื้อทองคำแท่งเมษายนเป็นเดือนที่ 6 ติดกันรวมทะลุ 30 ตัน ผ่อนคลายให้ธนาคารพาณิชย์ในจีนนำเข้าทองคำ รับมือความผันผวนค่าเงินหยวน และเศรษฐกิจโลก

ธนาคารกลางจีนซื้อ ทองคำ แท่งเมษายนเป็นเดือนที่ 6 ติดกันรวมทะลุ 30 ตัน ผ่อนคลายให้ธนาคารพาณิชย์ในจีนนำเข้าทองคำ รับมือความผันผวนค่าเงินหยวน และเศรษฐกิจโลก

ธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า ในเดือนเมษายนผ่านไปได้ซื้อทองคำแท่งประมาณ 70,000 ทรอยออนซ์ ส่งผลให้ เป็นการซื้อทองคำแท่งติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 นอกจากนี้ ปริมาณทองคำแท่งที่ซื้อสะสมดังกล่าวเพิ่มขึ้นเกือบ 1 ล้านทรอยออนซ์ หรือรวมกันประมาณ 30 ตัน ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการเงินตราต่างประเทศด้วยการอนุญาตให้ธนาคารพาณิย์ในจีนสามารถซื้อเงินสกุลต่างประเทศเพื่อซื้อและนำเข้าทองคำเข้ามาในจีน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการรักษาเสถียรภาพค่าเงินหยวนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐที่เกิดความผันผวนแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

เมื่อเดือนมีนาคม 2025 ที่ผ่านไป ธนาคารกลางจีนมีทองคำสะสมเพิ่มเป็น 5 ตัน ซึ่งนับเป็นการซื้อทองคำเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ทำให้ธนาคารกลางจีนมีทองคำสะสมรวมเป็น 2,292 ตัน ที่สำคัญ ทองคำคิดเป็น 6.5% ของทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนเมื่อเดือนมีนาคม

นักวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนมีทองคำแท่งอยู่ในทุนสำรองระหว่างประเทศประมาณ 8% ไม่เพียงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ระดับ 20% แต่ยังต่ำกว่าสัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศของประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศด้วย หากรัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนทองคำแท่งสำรองให้เป็น 20% และยังคงรักษาระดับการซื้อทองคำแท่งเฉลี่ยประมาณ 40 ตันต่อเดือน คาดว่าธนาคารกลางจีนจะต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปี จึงจะมีสัดส่วนทองคำแท่งเป็น 20% ของทุนสำรองระหว่างประเทศเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์หมินเชง ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งในประเทศจีน เปิดเผยว่า ทางการจีนได้อนุมัติโครงการนำร่องให้ 10 บริษัทในธุรกิจประกันสามารถลงทุนซื้อทองคำได้เป็นครั้งแรก ซึ่งมี 2 บริษัทธุรกิจประกันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจีน ได้แก่ พีไอซีซี พร๊อพเพอร์ตี้ แอนด์ แคชวลตี้ และไชน่า ไลฟ์ อินชัวร์รานซ์ รวมอยู่ด้วยโครงการนำร่องนี้จะอนุญาตให้บริษัทในธุรกิจประกันทั้ง 10 แห่ง สามารถลงทุนในสัดส่วนสูงสุด 1% ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันของแต่ละบริษัท โดยมีผลตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำหรับเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจากโครงการนำร่องดังกล่าว คาดว่าจะตั้งเป็นกองทุนที่มีมูลค่า 200,000 ล้านหยวน หรือ 27,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 931,600 ล้านบาท

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles