ธนาคารกลางจีนทุ่มซื้อทองคำเป็นเดือนที่ 10 ติดกัน ตุนทองคำขึ้นอีก 60,000 ออนซ์ในสิงหาคม จีนสะสมทองคำขึ้นแตะกว่า 2,200 ตัน

ธนาคารกลางจีนทุ่มซื้อทองคำ เป็นเดือนที่ 10 ติดกัน ตุนทองคำขึ้นอีก 60,000 ออนซ์ในสิงหาคม จีนสะสมทองคำขึ้นแตะกว่า 2,200 ตัน

ธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่าในเดือนสิงหาคม 2025 ได้ซื้อทองคำแท่ง 60,000 ทรอยออนซ์ ส่งผลให้เป็นการซื้อทองคำแท่งติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ติดกัน หรือนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2024 เป็นต้นมา มีปริมาณซื้อสะสมต่อเนื่องรวม 1.22 ล้านออนซ์ หรือ 38.12 ตัน คิดเฉลี่ยซื้อเดือนละ 3.81 ตัน ดังนั้น ทำให้ในปัจจุบันธนาคารกลางจีนมีปริมาณทองคำแท่งสะสมเพิ่มเป็น 72.04 ล้านออนซ์ หรือ 2,251 ตัน

สำหรับการซื้อทองคำของธนาคารกลางจีนในเดือนสิงหาคมที่ผ่านไปนั้น ส่งผลให้มูลค่าทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้นอีก 9,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 316,800 ล้านบาท มาอยู่ที่ 253,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8.12 ล้านล้านบาทในเดือนดังกล่าว นอกจากนี้ ส่งผลให้ทองคำแท่งเพิ่มขึ้นเป็น 7.64% ของทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนในปัจจุบัน

เป็นการซื้อเพิ่มขึ้นถึง 10,000 ทรอยออนซ์เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมที่มีการซื้อทองคำแท่งประมาณ 60,000 ทรอยออนซ์ อย่างไรก็ตาม ปริมาณดังกล่าวในเดือนพฤษภาคมกลับลดลงราว 10,000 ทรอยออนซ์ จากจำนวน 70,000 ทรอยออนซ์ในเดือนเมษายน

สภาทองคำโลก หรือ WGC เปิดเผยรายงานผลสำรวจเมื่อเดือนมิถุนายน 2025 ที่ผ่านมาว่า 95% ของธนาคารกลางทั่วโลกคาดว่าจะมีการซื้อทองคำสะสมเพิ่มขึ้นในทุนสำรองระหว่างประเทศในช่วง 12 เดือนข้างหน้านี้ สัดส่วนดังกล่าวทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการทำผลสำรวจครั้งแรกเกี่ยวกับการคาดการณ์ของธนาคารกลางทั่วโลกในการซื้อทองคำสะสมในปี 2019 หรือในรอบ 6 ปีเป็นต้นมา

ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำแท่งรวมกันเดือนละกว่า 80 เมตริกตัน คิดเป็นมูลค่ารวมกัน 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 280,500 ล้านบาท

เมื่อเดือนเมษายน 2025 ผ่านมา ธนาคารกลางจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการเงินตราต่างประเทศด้วยการอนุญาตให้ธนาคารพาณิย์ในจีนสามารถซื้อเงินสกุลต่างประเทศเพื่อซื้อและนำเข้าทองคำเข้ามาในจีน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการรักษาเสถียรภาพค่าเงินหยวนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐที่เกิดความผันผวนแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนมีทองคำแท่งอยู่ในทุนสำรองระหว่างประเทศประมาณ 8% ไม่เพียงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ระดับ 20% แต่ยังต่ำกว่าสัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศของประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศด้วย หากรัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนทองคำแท่งสำรองให้เป็น 20% และยังคงรักษาระดับการซื้อทองคำแท่งเฉลี่ยประมาณ 40 ตันต่อเดือน คาดว่าธนาคารกลางจีนจะต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปี จึงจะมีสัดส่วนทองคำแท่งเป็น 20% ของทุนสำรองระหว่างประเทศเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์หมินเชง ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งในประเทศจีน เปิดเผยว่า ทางการจีนได้อนุมัติโครงการนำร่องให้ 10 บริษัทในธุรกิจประกันสามารถลงทุนซื้อทองคำได้เป็นครั้งแรก ซึ่งมี 2 บริษัทธุรกิจประกันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจีน ได้แก่ พีไอซีซี พร๊อพเพอร์ตี้ แอนด์ แคชวลตี้ และไชน่า ไลฟ์ อินชัวร์รานซ์ รวมอยู่ด้วยโครงการนำร่องนี้จะอนุญาตให้บริษัทในธุรกิจประกันทั้ง 10 แห่ง สามารถลงทุนในสัดส่วนสูงสุด 1% ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันของแต่ละบริษัท โดยมีผลตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำหรับเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจากโครงการนำร่องดังกล่าว คาดว่าจะตั้งเป็นกองทุนที่มีมูลค่า 200,000 ล้านหยวน หรือ 27,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 931,600 ล้านบาท

นอกจากนี้ เดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายก่อนที่ธนาคารจีนจะยุติการซื้อทองคำในเดือนพฤษภาคมปี 2024 นั้น มีทองคำเพิ่มขึ้น 60,000 ออนซ์ ก่อนหน้านี้เมื่อสิ้นเดือนพฤษภาคม ธนาคารกลางจีนมีทองคำสะสมอยู่ที่ 72.80 ล้านทรอยออนซ์ หรือราว 2,063 เมตริกตัน และยุติการซื้อทองคำแท่งเป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือน ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีนี้ 

นายจ้าว ฉิงหมิน รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเทคโนโลยีสารสนเทศ ไห่กววน เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้ธนาคารกลางจีนกลับมาซื้อทองคำอีกครั้งในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาเป็นผลมาจากราคาทองคำในตลาดโลกมีราคาปรับลดลงนับตั้งแต่ขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2024 ที่ระดับราคา 2,790 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

อย่างไรก็ตาม สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2024 พบว่ามูลค่าทองคำสำรองในทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนอยู่ที่ 193,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6.58 ล้านล้านบาท ลดลงจาก 199,060 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6.77 ล้านล้านบาทเมื่อสิ้นเดือนตุลาคม สาเหตุจากราคาทองคำโลกลดลงต่อเนื่องจากสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมผ่านมา ส่งผลให้ราคาทองคำตั้งแต่ต้นปีนี้ มีราคาลดลงจากเดิมกว่า 34% มาอยู่ที่ราว 27% ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม กำลังจะทำให้เป็นราคาทองคำรายปีที่สูงสุดในรอบ 14 ปี

สภาทองคำโลก เปิดเผยต่อไปว่า ในปี 2023 ธนาคารกลางจีนกลายเป็นธนาคารที่ซื้อทองคำแท่งมากที่สุดในโลก โดยซื้อทองคำรวมสุทธิ 7.23 ล้านออนซ์ ย้อนกลับไปเมื่อ 20 สิงหาคม 2024 ผ่านมา ธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยว่า ได้อนุญาตโควต้าการนำเข้าทองคำแท่งรอบใหม่ให้กับธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในประเทศจีน หลังจากในช่วงผ่านมา ได้ยุติการนำเข้าทองคำของธนาคารพาณิชย์เป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 2 เดือนก่อนที่จะถึงเดือนสิงหาคม เนื่องจากความต้องการบริโภคทองคำชะลอตัวลงในประเทศจีน ซึ่งมีผลมาจากราคาทองคำตลาดโลกมีราคาสูงเป็นประวัติศาสตร์ต่อเนื่อง

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles