ธนาคารกลางไต้หวัน แถลงผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินว่า ที่ประชุมมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นระดับ 2.0% ส่งผลเป็นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2008 หรือตั้งแต่วิกฤตการณ์สถาบันการเงินในสหรัฐล่มสลาย จากผลของวิกฤตตราสารหนี้ซับไพรม์ในวงการอสังหาริมทรัพย์
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวสร้างความประหลาดใจ และอยู่เหนือความคาดหมายของวงการตลาดทุน และนักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลก โดยเฉพาะผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากล้วนมองไปในทิศทางเดียวกันว่าการประชุมในวันนี้ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
ธนาคารกลางไต้หวัน เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อของไต้หวันยังคงมีแรงกดดันเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเงินเฟ้อในเดือนกุมภาพันธ์ที่ปรับสูงขึ้นแตะ 3.08% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ซึ่งทำสถิติเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดตั้งแต่กลางปี 2022 หรือสูงสุดในรอบ 1 ปีกว่าผ่านมา ก่อนหน้านี้ ในช่วง 3 ปีผ่านมา ภาวะเงินเฟ้อในไต้หวันเพิ่มสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ที่สำคัญ คือเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าจะลดลงแต่อย่างใด
รัฐบาลไต้หวันกำลังพิจารณาจะปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เพื่อทำให้มีรายได้มาชดเชยผลการขาดทุนของรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าไต้หวัน พาวเวอร์ โค เนื่องจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารกลางไต้หวันได้ปรับเพิ่มเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2024 นี้ จากเดิมที่ระดับ 1.89% มาเป็นที่ระดับ 2.16%
