สถาบันการลงทุนเวลล์ส ฟาร์โก หรือ WFII ซึ่งอยู่ในเครือธนาคารเวลล์ส ฟาร์โก (Wells Fargo) ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารยักษ์ใหญ่และชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ได้ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ราคาเป้าหมายทองคำตลาดโลกในสิ้นปี 2026 มาอยู่ที่ระหว่าง 4,500 ถึง 4,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากเดิมระหว่าง 3,900 ถึง 4,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการเพิ่มตัวเลขดังกล่าวขึ้นอีก 600 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 14.6%
สาเหตุมาจาก 2 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ปัญหาความขัดแย้งในภูมิรัฐศาสตร์ของโลกอย่างมีต่อเนื่อง รวมถึงความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจและนโยบายการค้าและภาษี ดังนั้นจะส่งผลให้เกิดความต้องการในการลงทุนของนักลงทุนทั้งประเภทรายย่อยและสถาบันการเงินที่มีเป้าหมายในการประกันความเสี่ยงและกระจายสินทรัพย์ในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2024 ที่ผ่านมา นายจอห์น ลาฟอร์จ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินทรัพย์ ธนาคารเวลล์ส ฟาร์โก เปิดเผยว่า ภายในปี 2025 นักลงทุนควรจะมีการปรับและขยายสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนให้กว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะกลยุทธ์การลงทุนที่เรียกว่าดรัมเบลล์ สำหรับกลยุทธ์นี้เป็นการลงทุนเฉลี่ยน้ำหนักระหว่างสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบและทองคำ เมื่อพูดถึงความถี่ หรือจำนวนครั้งในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดในปี 2025 นายจอห์น ลาฟอร์จ เปิดเผยว่าเฟดอาจลดจำนวนการปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวลงเหลือเพียงแค่ 1 ครั้งจากก่อนหน้านี้ที่มองว่าจะมีการปรับลดอย่างน้อย 3-4 ครั้ง ท่ามกลางแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐจะหวนคืนกลับทะยานสูงขึ้นเหนือ 3%
นายจอห์น ลาฟอร์จ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินทรัพย์ ธนาคารเวลล์ส ฟาร์โก กล่าวถึงปัจจัยบวกความต้องการทองคำของธนาคารกลางว่า ในปี 2025 ความต้องการซื้อทองคำเข้าสะสมในทุนสำรองระหว่างประเทศจะเห็นได้ชัดเจน และมากขึ้นจากธนาคารกลางในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ทั่วโลก รวมถึงผู้บริโภคและนักลงทุนทองคำที่ต้องการจะปกป้องมูลค่าและปิดความเสี่ยงจากภาวะการก่อหนี้ผู้สูงขึ้น จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกที่จะผลักดันราคาทองคำในตลาดโลกระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 จะยังคงเป็นรอบขาขึ้นครั้งใหญ่เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน หรือที่เรียกว่าซุปเปอร์ไซเคิลของการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์ในภาพรวม ถึงแม้ว่าในช่วงระยะสั้นนั้น พอร์ตสินค้าโภคภัณฑ์ในภาพรวมจะมีผลตอบแทนไม่ราบรื่นก็ตาม แต่หากมองในระยะยาวจะพบว่าความต้องการในการลงทุนจะมีมากกว่า ซึ่งกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแรงในการสนับสนุนผลตอบแทนจากการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ในระยะยาวของปี 2025 ด้านนางเทรซี่ แม็คมิแลน หัวหน้าการจัดสินทรัพย์ลงทุนทั่วโลก ธนาคารเวลล์ส ฟาร์โก เปิดเผยว่า ธนาคารชื่นชอบการให้น้ำหนักลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์มาเป็นเครื่องมือประกันความเสี่ยงกับเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอน และมีความเสี่ยงสูงในปี 2025 เช่น ให้น้ำหนักการลงทุนในพอร์ตสินค้าโภคภัณฑ์มากกว่าการลงทุนในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในระยะยาว
 
								 
															 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								