ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ Asian Development Bank หรือเอดีบี ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีประเทศไทยในปี 2024 นี้ จากเดิมที่ระดับ 2.6% ลงมาเหลือเพียง 2.3% และในปี 2025 ปรับลดลงจากเดิมที่ระดับ 3.0% มาเหลือเพียง 2.7% ไม่เพียงตัวเลขดังกล่าวของเศรษฐกิจไทยจะเติบโตไม่ถึง 3% ถึง 2 ปีซ้อน แต่ประเทศไทยเป็นเพียงประเทศเดียวในอาเซียนที่ธนาคารเอดีบีลดเป้าหมายตัวเลขจีดีพีลง ท่ามกลางตัวเลขคาดการณ์จีดีพีของประเทศอื่นๆในอาเซียนไม่เปลี่ยนแปลง หรือมีปรับเล็กน้อย สาเหตุที่ประเทศไทยถูกปรับลดตัวเลขจีดีพีจากการใช้จ่ายของภาครัฐบาลไทยที่ลดลง และการส่งออกที่จะฟื้นตัวต่ำกว่าที่คาดไว้
สำหรับ 5 ชาติชั้นนำในอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซียเติบโต 5.0% ทั้ง 2 ปีติดกัน สิงคโปร์โต 2.6% ทั้งปีนี้และปีหน้า มาเลเซียโต 4.5% และ 4.6% ในปี 2024 และปี 2025 ตามลำดับ เวียดนามและฟิลิปปินส์ขยายตัว 6.0% และ 6.2% ใน 2 ปีติดกัน ทั้ง 5 ประเทศดังกล่าว พบว่า สิงคโปร์ และมาเลเซีย เป็น 2 ประเทศที่ได้รับการปรับเป้าหมายจีดีพีขึ้น ขณะที่เวียดนามและฟิลิปปินส์ ไม่ได้รับการปรับขึ้นตัวเลขจีดีพี และไทยถูกปรับลดจีดีพีลงเพียงชาติเดียวใน 5 ชาติชั้นนำดังกล่าว
สำหรับในภาพรวมของอาเซียนนั้น ธนาคารเอดีบี คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2024 ลดลงเล็กน้อย โดยปรับลดลงจาก 4.6% มาเหลือที่ระดับ 4.5% หนึ่งในสาเหตุมาจากการปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพีประเทศไทยตามข้างต้น ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของกลุ่มอาเซียน
ธนาคารเอดีบีได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ประเทศสิงคโปร์ปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 2.4% เป็นระดับ 2.6% เนื่องจากแรงส่งของความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และบริการทางการเงินที่เพิ่มขึ้น จึงคาดว่าอัตราการเติบโตในปี 2025 ของสิงคโปร์จะทรงตัวที่ระดับ 2.6%
ด้านอัตราเงินเฟ้อของอาเซียนในปี 2024 นี้ ธนาคารเอดีบีปรับขึ้นเป็น 3.3% จากเดิมที่ระดับ 3.2% เหตุจากสกุลเงินของประเทศสปป.ลาว และเมียนมาที่อ่อนค่าลง โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อของสปป.ลาวที่ถูกคาดการณ์ว่าจะอยู่ในระดับสูงมากที่ 25% ซึ่งสูงที่สุดใน 46 ประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนาในเอเชีย ในปี 2025 อัตราเงินเฟ้ออาเซียน ถูกปรับตัวเลขคาดการณ์ขึ้นจาก 3.0% เป็นระดับ 3.2%
