ธนาคารลอยด์ส แบงก์ (Lloyds Bank) ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำ ชื่อดังระดับโลก และมีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่ โดยจะมีพนักงานที่เข้าข่ายถูกปลดออกมากถึง 3,000 คน ซึ่งจำนวนพนักงานดังกล่าวอยู่ในกลุ่ม 5% ล่างสุดของพนักงานธนาคารที่มีผลการปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ และประสิทธิภาพตามที่ธนาคารได้ประเมินผลไว้
นายชาร์ลี นันน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอธนาคารลอยด์ส แบงก์ เปิดเผยว่า จำนวนพนักงาน 3,000 คนที่มีความเป็นไปได้จะถูกปลดออกนั้น จะมีราว 50% หรือ 1,500 คน จะถูกปลดออกจากธนาคารอย่างแน่นอน หากพนักงานในสัดส่วนนี้ไม่รีบปรับปรุงวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐาน และกฎเกณฑ์การประเมินของธนาคาร
นอกจากนี้ ธนาคารยังใช้นโยบายตัดลดค่าใช้จ่ายและควบคุมต้นทุนอย่างต่อเนื่องซึ่งเตรียมที่จะประกาศปิดสาขาเป็นจำนวน 136 แห่งในสหราชอาณาจักร สาเหตุจากลูกค้าของธนาคารหันไปใช้ระบบธนาคารดิจิตอล หรือออนไลน์ของธนาคารที่ให้บริการในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ไฟแนนซ์เชียล ไทม์ส ซึ่งเป็นสำนักข่าวและสื่อด้านเศรษฐกิจการเงินการลงทุนชื่อดังของอังกฤษ เปิดเผยว่า ความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีอยู่สูงนั้นส่งผลให้พนักงานทำงานในธุรกิจธนาคารมีความระมัดระวังในการเปลี่ยนแปลงการทำงาน สำหรับธนาคารลอยด์ส แบงก์ จะมีอัตราพนักงานออกจากธนาคารเฉลี่ยปีละ 5% เมื่อเทียบเคียงกับในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเคยมีอัตราการลาออกจากธนาคารสูงถึง 15% เป็นประวัติการณ์
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 กันยายน ผ่านมา ธนาคารเอเอ็นแซด กรุ๊ป โฮลดิงส์ จำกัด (ANZ Group Holdings Ltd.) เป็นธนาคารพาณิชย์ใหญ่อันดับ 2 ในประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่าเตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่ออก 5,000 คน หรือคิดเป็น 12% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดราว 42,000 คนที่มีอยู่ในปัจจุบัน
นายนูโน มาทอส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ เปิดเผยว่า สาเหตุจากธนาคารมีนโยบายปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ กลยุทธ์การพลิกฟื้นกิจการ คือการปรับปรุงวัฒนธรรมองค์กร และการบริหารความเสี่ยงของธนาคาร คาดว่าพนักงานจำนวน 5,000 คนที่จะถูกปลดออกประกอบด้วยพนักงานในสายงานธุรกิจเทลแบงก์กิง 2,000 คน และสายงานอื่นๆ อีกราว 3,000 คน
ฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารดังกล่าว เปิดเผยว่า ธนาคารกำลังอยู่ระหว่างการทบทวนกลยุทธ์ธุรกิจธนาคารในระยะยาว สำหรับสาขาในเมืองเมลเบิร์นนั้น กำลังเตรียมยุบตำแหน่งงานที่ไม่สอดคล้องกับลำดับความสำคัญ ลดความซ้ำซ้อนลง