นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ( ธอส. ) เปิดเผยว่า ธอส.ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมร่วมส่งกำลังใจให้กับประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือและพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยและการประกอบอาชีพของประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ธอส.จึงจัดทำ “มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2567” รวมทั้งสิ้น 7 มาตรการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกค้าประชาชน ครอบคลุมทั้งการลดเงินงวดและดอกเบี้ย ให้กู้เพิ่ม/กู้ใหม่อัตราดอกเบี้ยต่ำ ประนอมหนี้ ปลอดหนี้ รวมถึงการมอบสินไหมเร่งด่วนให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน
จากการสำรวจพบว่า ลูกค้า ธอส.ที่มีหลักประกันในพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 24,588 ราย คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือกว่า 28,700 ล้านบาท โดย ธอส.ยืนยันพร้อมร่วมกับบริษัทพันธมิตรประกันวินาศภัย ประกอบด้วย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) ประสานงานให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ทำประกันอัคคีภัย ซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติแล้ว ให้ได้รับสินไหมเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษอย่างเต็มที่
ขณะนี้มีลูกค้ายื่นความประสงค์ขอรับสินไหมแล้วอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้เอาประกันสามารถแจ้งความเสียหายพร้อมส่งภาพถ่ายหลักประกัน เพื่อขอรับค่าสินไหมตามความเสียหายจริงภายในวงเงินไม่เกิน 20,000 บาท และสำหรับลูกค้าที่มีกรมธรรม์เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เพิ่มความคุ้มครองภัยธรรมชาติตามความเสียหายจริงอีกไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี (รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นไปตามกรมธรรม์)
นอกจากนี้ยังพร้อมให้คำปรึกษาแนวทางช่วยเหลือผ่าน 7 มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2567 เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป สำหรับลูกค้าที่ประสงค์ขอรับบริการตามมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2567 ทั้ง 7 มาตรการ สามารถติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส.ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ Application: GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th