ธุรกิจค้าปลีกไทยปี 68 ซบเซาคาดโตแค่ 3% หดหายเกือบ 1% จากปีก่อน โชว์ห่วยขาใหญ่ชี้เศรษฐกิจไทยปีนี้แย่กว่าปี 67 ยอดขายรวม 4 เดือนแรกดิ่งแรง -15% เงินหมื่นก็ไม่เป็นพายุหมุนเศรษฐกิจ 

ธุรกิจค้าปลีก ไทยปี 68 ซบเซาคาดโตแค่ 3% หดหายเกือบ 1% จากปีก่อน โชว์ห่วยขาใหญ่ชี้ เศรษฐกิจไทย ปีนี้แย่กว่าปี 67 ยอดขายรวม 4 เดือนแรกดิ่งแรง -15% เงินหมื่นก็ไม่เป็นพายุหมุนเศรษฐกิจ 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่ายอดขายค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคในปี 2568 นี้ เติบโตในลักษณะชะลอตัวลง โดยยอดขายค้าปลีกในไตรมาส 1 ปีนี้เติบโต 4.0% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ท่ามกลางค่าครองชีพสูงทำให้ผู้บริโภคยังคงระวังการใช้จ่าย ในแง่มูลค่านั้น คาดการณ์ว่าตลาดจะมีมูลค่า 4.25 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 23% ของจีดีพีไทย แต่ในแง่การขยายตัวคาดว่า อัตราการขยายตัวมีเพียง 3.0% ซึ่งชะลอจากปี 67 ที่เติบโตถึง 3.8%

สำหรับปัจจัยลบที่กระทบธุรกิจขายปลีก ได้แก่ กำลังซื้อคนในประเทศไม่ฟื้น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติหดหาย การแข่งขันรุนแรงโดยเฉพาะแพลตฟอร์ม

E-commerce ต่างชาติ และต้นทุนการทำธุรกิจยังสูง

ด้านนายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจขายปลีกและขายส่งรายใหญ่ในจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ใน 4 เดือนแรกปีนี้ ยอดขายทั้ง 2 สาขาลดลง 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา สาเหตุจากเศรษฐกิจไทยโดยรวมไม่ดี ผู้บริโภคประหยัดการใช้จ่าย นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลที่กระตุ้นออกมากลับยังไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทยในทุกวันนี้ ในแง่กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ผ่านมา ปรากฏว่านับตั้งแต่สิ้นสุดการระบาดของโรคโควิด-19 มาถึงปัจจุบัน กำลังซื้อโดยรวมลดลงกว่า 30% ถึงแม้จะมีมาตรการแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาทรวม 2 รอบ แต่ไม่ได้ช่วยให้เกิดพายุหมุนต่อระบบเศรษฐกิจหลายรอบอย่างที่ประกาศไว้

ทั้งนี้ สำหรับการปรับตัวเพื่อดำเนินธุรกิจต่อไปได้นั้น เนื่องจากเศรษฐกิจไทยไม่ดี และแย่กว่าปี 2567 ทำให้ต้องลดค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาสภาพคล่อง ลดจำนวนวันเก็บรักษาสต๊อกสินค้าไม่ให้เกิน 30-45 วัน จากปกติ 60 วัน เจรจาลดเป้ายอดขายกับทางซัพพลายเออร์และผู้ผลิตสินค้า เป็นต้น

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles