ธุรกิจบริการการจัดการปรึกษาการลงทุน หรือ Management Consultant ซึ่งเป็นธุรกิจที่บริษัทในภาคเอกชน และองค์กรภาครัฐในหลายประเทศทั่วโลกใช้บริการด้วยการจ่ายค่าบริการแพงสูงลิ่วลิบลิ่ว กำลังเข้าสู่วงจรธุรกิจล่มสลายที่ไม่แตกต่างจากโกดัก (Kodak) ซึ่งเป็นบริษัทอายุกว่า 100 ปีที่ผลิตฟิล์มเนกกาทีฟถ่ายภาพ และกล้องอุปกรณ์ถ่ายภาพ ต้องล่มสลาย และล้มละลายเมื่อปี 2012 หรือเมื่อ 13 ปีผ่านมา
ปัจจุบันธุรกิจบริการการจัดการปรึกษาการลงทุน มีมูลค่าตลาดสูงมากถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 33 ล้านล้านบาท บริษัทชั้นนำในธุรกิจนี้มีหลากหลายแห่ง เช่น ดีลอยต์(Deloitte) แอคเซนเชอร์ (Accenture) บูซ แอลเลน แฮมิลตั้น (Booz Allen Hamilton) เป็นต้น
เป็นที่ทราบกันดีว่า บริษัทในธุรกิจนี้ตั้งค่าใช้จ่ายแพงลิบลิ่ว หนึ่งในหัวหน้าการเงินของสถาบันการเงินแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร เปิดเผยรายละเอียดและค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลในการใช้บริการด้วยการเปรียบเทียบ พบว่า โครงการศึกษาลงทุนที่ให้บริษัทชื่อดังทำนั้นอาจมีค่าใช้จ่ายมากถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 33 ล้านบาท แต่มาถึงยุคเอไอ หรือข้อมูลดิจิตอล ค่าใช้จ่ายลดลงมาเหลือเพียง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 330,000 บาท
ธุรกิจดังกล่าวได้รับผลกระทบต่อเนื่องและจะมากขึ้นเรื่อยๆ จากการเติบโตและความต้องการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ มาแทนที่มากขึ้นตลอดเวลา รวมถึงการแข่งขันด้านเทคโนโลยีดิจิตอล ก่อนหน้านี้ในช่วงเกิดวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ได้กลายเป็นปัจจัยลบที่เร่งตัวอย่างรวดเร็ว เช่น วิกฤตเงินเฟ้อทั่วโลก เศรษฐกิจไม่แน่นอนสูงต่อเนื่อง ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจบริการการจัดการปรึกษาการลงทุน เนื่องจากลูกค้าที่เป็นบริษัทชั้นนำไปจนถึงองค์กรต่างๆ ล้วนตัดลดค่าใช้จ่ายอย่างมากมาย และอย่างรวดเร็วในการใช้บริการดังกล่าว
รัฐบาลสหรัฐอเมริกาสั่งตัดลดค่าใช้จ่าย และลดเงินงบประมาณครั้งใหญ่ ด้วยการยกเลิกสัญญาว่าจ้างบริษัทในธุรกิจบริการการจัดการปรึกษาการลงทุนจำนวนมากมายหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ได้ทำสัญญากับองค์กร หรือหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2025 บริษัททำธุรกิจบริการการจัดการปรึกษาการลงทุนรายใหญ่ 10 อันดับแรก รวมทั้ง ดีลอยต์(Deloitte) แอคเซนเชอร์ (Accenture) บูซ แอลเลน แฮมิลตั้น (Booz Allen Hamilton) เป็นต้น ถูกคณะกรรมการของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาสอบสวนเกี่ยวกับค่าบริการที่แพงมากมายบนประเด็นที่ว่าสมเหตุสมผลหรือไม่กับค่าบริการของบริษัทเหล่านี้ เหตุการณ์ดังกล่าวรวมถึงแนวโน้มไม่สดใสของอนาคตในธุรกิจนี้ ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทในธุรกิจนี้ถูกนักลงทุนกระหน่ำเทขายดำดิ่งหนักถึง -30% ในช่วง 2 ปีผ่านมา
เมื่อรายได้จากค่าบริการจัดการที่ปรึกษาหดหายอย่างรวดเร็ว บริษัทเหล่านี้เหลือทางเลือกไม่กี่ทางเพื่อให้อยู่รอด แอคเซนเชอร์ (Accenture) ประกาศเมื่อเดือนกันยายนผ่านไปด้วยการปลดพนักงานครั้งใหญ่ถึง 11,000 คน เซลส์ฟอร์ส (Salesforce) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา ประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่ 4,000 คน และไมโครซอฟท์ประกาศยกเลิกการรับสมัครพนักงานใหม่ในกลุ่มธุรกิจการจัดการที่ปรึกษาลงทุน