นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ปัจจุบันไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในสังคมได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต โดยหันมาอยู่บ้านและใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น รวมถึงการพาสัตว์เลี้ยงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้เวลายามว่างเพื่อแก้เหงา จนสัตว์เลี้ยงกลายเป็นเสมือนคนในครอบครัว ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวส่งผลให้ ‘ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง’ เติบโตขึ้นตามไปด้วย โดยการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจากคลังข้อมูลธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD DataWarehouse+) พบว่า ‘ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง’ มีอัตราการเติบโตขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (ปี 2566-2567) ทั้งจำนวนการจัดตั้งใหม่และทุนจดทะเบียน
โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2568 ประเทศไทยมีธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจำนวนทั้งสิ้น 3,659 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 145,219.38 ล้านบาท โดยปี 2566 มีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง 487 ราย ทุนจดทะเบียน 658.85 ล้านบาท ปี 2567 จัดตั้ง 436 ราย (ลดลง 51 ราย หรือ 10.47%) ทุน 681.71 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 22.86 ล้านบาท หรือ 3.47%) ปี 2568 (มกราคม – เมษายน) จัดตั้ง 124 ราย ทุน 186.10 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง 5 ปีที่ผ่านมา (2562 – 2566) พบว่าโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้รวมของธุรกิจเฉลี่ย 5 ปี อยู่ที่ 3.3 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ทิศทางของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงยังมีอนาคตที่สดใส และคาดว่าจะมีอัตราการแข่งขันที่สูงมากขึ้น เนื่องจากมีคู่แข่งเข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่จำนวนผู้บริโภคก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ผู้ประกอบธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจึงต้องมีการปรับตัวให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มศักยภาพ ขณะที่ปัจจัยที่ส่งเสริมให้ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากสัตว์เลี้ยงได้กลายมาเป็นคอนเทนต์สร้างสีสันในโลกโซเชียล (Petfluencer) สร้างรายได้ให้เจ้าของที่นำเรื่องราวความน่ารักหรือการพาสัตว์เลี้ยงของตนเองไปท่องเที่ยวที่ต่างๆ มาเผยแพร่บนโลกออนไลน์จนเกิดผู้ติดตามและสร้างอิทธิพลทางความคิดจนเกิดการอยากเลี้ยงสัตว์ตามมา
อีกทั้ง การซื้อขายของใช้ อาหาร ขนม หรือของเล่นของสัตว์ที่สินค้ามีความหลากหลายให้เลือกซื้อมากขึ้น มีธุรกิจเกิดใหม่จากวัฏจักรชีวิตสัตว์เลี้ยงที่เรารัก เช่น บริการ Health & Wellness สำหรับสัตว์เลี้ยง และธุรกิจรับจัดงานอวมงคลโดยเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยง ประกอบกับผู้ผลิตได้ปรับตัวในการผลิตสินค้าให้มีความปลอดภัย มีรูปแบบที่ทันสมัย การใช้เทคโนโลยีมาช่วยเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยง และเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสัตว์เลี้ยงมากขึ้น รวมถึง ปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวอย่างห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวก็ต่างปรับตัวให้เป็น Pet Friendly ลูกค้าสามารถพาสัตว์เลี้ยงมาเที่ยวด้วยกันได้ จึงทำให้เกิดสังคมคนเลี้ยงสัตว์มารวมตัวกัน และยังมีพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง และอาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย” อธิบดีอรมน กล่าวทิ้งท้าย