ธุรกิจโรงเรียนอินเตอร์สดใสในต่างจังหวัด แห่เปิดมากกว่าในกรุงเทพ เศรษฐีไทยรวยกว่า 34 ล้านบาทผุดเพียบ ลูกชาวจีนระดับบริหารแห่เรียนพุ่ง

ธุรกิจ โรงเรียน อินเตอร์สดใสในต่างจังหวัด แห่เปิดมากกว่าในกรุงเทพ เศรษฐีไทยรวยกว่า 34 ล้านบาทผุดเพียบ ลูกชาวจีนระดับบริหารแห่เรียนพุ่ง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่าในปี 2568 ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในไทยโต 9.7% ชะลอตัวจากปีก่อนหน้าเล็กน้อยที่เติบโต 13.1% จากจำนวนโรงเรียนนานาชาติที่เปิดใหม่ 8 โรงเรียน น้อยกว่าที่เปิดในปี 2567 อยู่ 5 โรงเรียน โรงเรียนนานาชาติยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวไปสู่นอกกรุงเทพฯ มากขึ้น เนื่องจากพื้นที่ที่จำกัดและการแข่งขันที่สูงในเมืองหลวง ในปี 2568 นี้ ภาพรวมจำนวนนักเรียนในไทยลดลง 1.1% แต่นักเรียนนานาชาติกลับเพิ่ม 8.3% จำนวนนักเรียนไทยมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องตามสถิติการเกิด โดยการลดลงนี้มาจากจำนวนนักเรียนรัฐบาล และเอกชนหลักสูตรไทยที่ในปีนี้คาดว่าจะลดลง 1.1% และ 1.2% ตามลำดับ

ความนิยมหลักสูตรนานาชาติที่ทันสมัยยังคงหนุนการเติบโตของธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในไทย โดยผู้ปกครองที่มีศักยภาพการลงทุนด้านการศึกษายังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนจากการที่จำนวนคนไทยที่มีทรัพย์สินมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์คาดว่าจะเพิ่ม 24% ในปี 2566-2571

การเพิ่มขึ้นของนักเรียนต่างชาติเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะนักเรียนจีนที่คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยชาวจีนในตำแหน่งสูงที่มาทำงานในไทยยังเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20.8% ต่อปีตั้งแต่ปี 2564-2567 ซึ่งนักเรียนชาวจีนที่ติดตามผู้ปกครองมาอยู่ในไทยก็มักจะเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติ นอกจากนี้ การที่รัฐบาลจีนมีนโยบายส่งเสริมการใช้ภาษาจีนกลาง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเรียนหลักสูตรนานาชาติในจีนสูงขึ้น ทั้งนี้ จากผลสำรวจ ปักกิ่งเป็นเมืองที่มีค่าเรียนโรงเรียนนานาชาติสูงสุดในเอเชีย ส่งผลให้โรงเรียนนานาชาติในไทยนั้นเป็นที่สนใจสำหรับผู้ปกครองจีน

โรงเรียนนานาชาตินอกกรุงเทพฯ ยังคงมีแนวโน้มขยายตัว โดยระหว่างปี 2564-2568 จำนวนโรงเรียนนานาชาติในภูมิภาคนอกกรุงเทพฯ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 9.1% ในขณะที่กรุงเทพฯ มีอัตราเฉลี่ยหดตัว 1.7 % ต่อปี นอกจากนี้ อัตราการเติบโตของนักเรียนนานาชาติในภูมิภาคอื่น ยังสูงกว่ากรุงเทพฯราว 3.7% การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นและพื้นที่จำกัดทำให้โรงเรียนนานาชาติหันไปสำรวจตลาดใหม่ๆ ในหัวเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่, ระยอง, และภูเก็ต โดยเฉพาะในภาคกลางและตะวันออกที่มีครัวเรือนรายได้สูงรองจากกรุงเทพฯ

แต่เนื่องจากจำนวนครัวเรือนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในภูมิภาคเหล่านี้น้อยกว่ากรุงเทพฯ ผู้ประกอบการจึงอาจต้องปรับลดค่าเล่าเรียนให้ตรงกับรายได้ของผู้ปกครองในแต่ละพื้นที่ ภาคกลางและตะวันออกก็เป็นตลาดศักยภาพถัดจากกรุงเทพฯ ซึ่งสอดคล้องกับการที่มีจำนวนครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยมากกว่า 100,000 บาท/เดือน รองจากกรุงเทพฯ

ความเสี่ยงของธุรกิจโรงเรียนนานาชาติและกวดวิชา ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของค่าเล่าเรียนโรงเรียนนานาชาติอาจทำให้ผู้ปกครองพิจารณาส่งบุตรหลานไปศึกษาในต่างประเทศแทน เนื่องจากช่องว่างระหว่างค่าเล่าเรียนเริ่มลดลง ในปี 2567 ค่าเรียนเฉลี่ยต่อปีของโรงเรียนประจำในนิวซีแลนด์สูงกว่าโรงเรียนนานาชาติในไทย 385,724 บาท แต่ค่าใช้จ่ายดังกล่าวรวมค่าอาหารและที่พักระหว่างปีการศึกษาแล้ว

โรงเรียนนานาชาติเผชิญความท้าทายจากโรงเรียนเอกชนหลักสูตรไทยที่มีการเสนอหลักสูตรหลายภาษา เช่น ไทย อังกฤษ และจีน ซึ่งผู้ปกครองบางกลุ่มอาจพิจารณาเปลี่ยนไปหลักสูตรนี้เพื่อความคุ้มค่า การพัฒนาทางเทคโนโลยีทำให้การเรียนโฮมสคูลง่ายขึ้น และเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเรียนโฮมสคูลต่ำกว่าการเรียนในโรงเรียนนานาชาติ จึงอาจส่งผลกระทบต่อจำนวนนักเรียนในโรงเรียนนานาชาติได้ โดยค่าใช้จ่ายในการสอบ GED (เทียบวุฒิมัธยมปลายของสหรัฐฯ) รวมกับค่ากวดวิชาแบบเรียนตัวต่อตัว 100 ชั่วโมง จะอยู่ที่ประมาณ 160,800 บาท

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles