ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 49,806 จุด -196 จุด หรือ -0.43% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,308 จุด +4 จุด หรือ +0.09% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,794 จุด +108 จุด หรือ +0.65% ส่งผลดัชนีหุ้นนาสแดคทำสถิติปิดสูงสุด และสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่
ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +1.2%, +1.5% และ +2.1% ตามลำดับ ทำสถิติดัชนีหุ้นรายสัปดาห์ปิดเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบเกือบ 3 เดือน หรือตั้งแต่กุมภาพันธ์เป็นต้นมา นอกจากนี้ นับตั้งแต่ต้นปีมาถึงปัจจุบัน ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดทะยานขึ้น +6%, +11% และ +11% ตามลำดับ
สาเหตุจากนักลงทุนทำกำไรช่วงสั้นในหุ้นกลุ่มบลูชิป หลังจากเมื่อวันพุธในสัปดาห์ผ่านมา ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ นอกจากนี้ ในทางเทคนิค พบว่า ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ขึ้นสูงสุดระหว่างวันที่ 40,000 จุดเป็นครั้งแรกและครั้งประวัติศาสตร์ แต่ไม่สามารถผ่านแนวระดับดังกล่าวได้ ด้านตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปของผู้บริโภคในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าในเดือนมีนาคมและกุมภาพันธ์ที่เพิ่มขึ้น 0.4% นอกจากนี้ เงินเฟ้อในเดือนเมษายนดังกล่าวเพิ่มขึ้นไม่ถึงที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.4% สะท้อนถึงเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดต่ำลงในช่วงต้นไตรมาสที่ 2 ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกแข็งค่า และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นอายุ 10 ปี ปิดเพิ่มขึ้น
ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนกันยายนเพิ่มสูงขึ้นเป็น 71%
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทำสถิติทั้งในรายไตรมาส และรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 โดยในรายไตรมาสนั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +7.4%, +10.2% และ +9.1% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2021 สอดรับกับรายเดือน ปิดเพิ่มขึ้น +2.1%, +3.1% และ +1.8% ตามลำดับ