นักลงทุนแห่เทขายหุ้น น้ำมัน ทองคำยันบิทคอยน์รับเปิดตลาดซื้อขายวันสิ้นเดือนเมษายน เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 1 หดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปีช็อคนักลงทุน หวั่นเกิดภาวะถดถอยในปีนี้

นักลงทุนแห่เท ขายหุ้น น้ำมัน ทองคำยันบิทคอยน์รับเปิดตลาดซื้อขายวันสิ้นเดือนเมษายน เศรษฐกิจ สหรัฐไตรมาส 1 หดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปีช็อคนักลงทุน หวั่นเกิดภาวะถดถอยในปีนี้

วันนี้ 30 เมษายน 2025 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา เมื่อเวลา 9.30 น. หรือตรงกับเวลา 20.30 น. ในประเทศไทยปรากฏว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดทุนของสหรัฐอเมริกาเผชิญกับการเทขายของนักลงทุนในทุกตลาดทุนสำคัญ เริ่มจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์เปิดตลาดทรุดลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 39,751 จุด ดำดิ่งมาถึง -776 จุด หรือ -1.92% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 5,434 จุด ทรุดลง -126 จุด หรือ -2.27% และดัชนีหุ้นนาสแดค เคลื่อนไหวที่ระดับ 16,966 จุด ดำดิ่งมาถึง -495 จุด หรือ -2.84% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และดัชนีหุ้นนาสแดค เคลื่อนไหวหลุดระดับ 40,000 จุด และ 17,000 จุด ครั้งใหม่ตามลำดับ

ด้านตลาดเงินบิตคอยน์ พบว่า ค่าเงินบิทคอยน์เปิดตลาดตกต่ำลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 93,314 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3,126,019 บาท ทรุดลง -2,042 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 68,407 บาท หรือ -2.14% สอดรับกับตลาดทองคำโลก โดยเฉพาะราคาทองคำล่วงหน้า หรือฟิวเจอร์ เปิดตลาดด้วยราคาลดลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 3,321.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง -11.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.36%

ในขณะที่ตลาดราคาน้ำมันดิบนิวยอร์กสหรัฐ เปิดการซื้อขายด้วยราคาลดลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 59.40 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ลดลง -1.02 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.69% สอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ มีราคาลดลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 63.25 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ลดลง -1.00 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.56% ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทั้งสองแห่งทำสถิติราคาต่ำสุดในรอบกว่าสองสัปดาห์หรือนับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายนเป็นต้นมาอย่างต่อเนื่อง

สาเหตุที่ทำให้นักลงทุนในตลาดทุนแทบทุกประเภทเทขายสินทรัพย์ต่างๆออกมาอย่างหนาตา เป็นผลมาจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในปี 2025 นี้ มีความเป็นไปได้สูงมากขึ้นที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจทดถอยหลังจากกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีไตรมาสที่ 1 ปี 2025 ชะลอตัว -0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2024 ตัวเลขจีดีพีดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจรวมถึงเกินความคาดหมาย

เนื่องจากนักเศรษฐศาสตร์และตลาดทุนล้วนคาดการณ์ว่าจะเป็นการขยายตัว 0.3% ในขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสที่หนึ่งของปีนี้ชะลอตัวลงมากถึง -2.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สี่ในปี 2024 ซึ่งขยายตัวสูงถึง 2.3% 

สาเหตุหลักมาจากภาคเอกชนในสหรัฐอเมริกามีการเร่งนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นจำนวนมากส่งผลให้เกิดการขาดดุลการค้าจำนวนมากในไตรมาสที่ 1 ปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมีนาคมผ่านไปเกิดภาวะการขาดดุลการค้าพุ่งสูงถึง 9.6% มีมูลค่า 162,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5.43 ล้านล้านบาท ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles