นักวิชาการ คาดแนวโน้มจีดีพีไทยไตรมาส 2 อาจโตได้แค่ 1%มีความเสี่ยงเกิดเงินฝืด จากตัวเลขเงินเฟ้อเริ่มติดลบ กำล้งซื้ออ่อนแอ ให้จับตาการเจรจาภาษีสหรัฐฯ

นักวิชาการ คาดแนวโน้ม จีดีพีไทย ไตรมาส 2 อาจโตได้แค่ 1%มีความเสี่ยงเกิดเงินฝืด จากตัวเลขเงินเฟ้อเริ่มติดลบ กำล้งซื้ออ่อนแอ ให้จับตาการเจรจาภาษีสหรัฐฯ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ไทยยังมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือน เม.ย. และ พ.ค.เริ่มติดลบ แม้ว่าจะเกิดจากปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับลดลง แต่เมื่อพิจารณาตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานจะเห็นว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1% เช่นกัน ชี้ให้เห็นว่ากำลังซื้ออ่อนแอ ซึ่งหากเศรษฐกิจไทยชะลอแบบถลำลึกไทยอาจจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืดได้

ทัเงนี้ มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 คาดว่าจะโตเพียง 1% ส่วนครึ่งปีแรกอาจโต 2% แต่หากช่วงครึ่งปีหลังรัฐบาลไม่สามารถผลักดันให้เศรษฐกิจโตได้ 2% อาจฉุดให้จีดีพีไทยทั้งปีนี้โตต่ำกว่า 2% โดยมองว่ารัฐบาลจะต้องเร่งใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.75 แสนล้านบาท, เร่งฟื้นตลาดท่องเที่ยวจีนผลักดันให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ไม่ต่ำกว่า 35 ล้านคน ขณะที่ ธปท.จะต้องใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย ลดดอกเบี้ยลงอีก 0.5% ภายในปีนี้ รวมทั้งแก้ปัญหาการเมือง เพื่อไม่ให้เกิดการยุบสภา เพราะจะส่งผลต่อการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจล่าช้าออกไปอีก ซึ่งหากทำได้ คาดว่าจีดีพีไทยปีนี้น่าจะโตได้ 1.5-2 %ตามเป้าเดิม

อย่างไรก็ตามยังต้องจับตามาตรการภาษีตอบโต้ “Reciprocal Tariff” ของสหรัฐอ ซึ่งกำลังจะครบกำหนดผ่อนผัน และจะ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 ก.ค.2568 ซึ่งจากที่ติดตามสถานการณ์พบว่ายังไม่มีประเทศคู่ค้าสหรัฐใดที่มีการเจรจาจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งหากไทยและประเทศต่างๆ เจรจาไม่สำเร็จ และสหรัฐฯประกาศใช้ภาษีตอบโต้ทุกประเทศทั่วโลกคาดว่าจะส่งผลกระทบฉุดให้จีดีพีไทยลดลง 2% และอาจทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้โตต่ำกว่า 1%

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles