ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย หรือ CIMB THAI กล่าวว่า การลดดอกเบี้ยของแบงก์ชาติเร็วกว่าคาดนั้น ไม่ได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยที่ฝังลึก โดยยังคงคาดการณ์สำหรับการลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งๆ ละ 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยจะลดลงจาก 2.50% เป็น 2.00% ภายในสิ้นปี 2667 จากศักยภาพทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ การลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกน่าจะเกิดขึ้นในรอบการประชุมในเดือนเมษายน ซึ่งเลื่อนเข้ามาจากเดือนสิงหาคม การลดอัตราดอกเบี้ยมีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาผลกระทบของกำลังซื้อที่ต่ำเนื่องจากการจ่ายเงินงบประมาณที่ล่าช้า
อย่างไรก็ตาม ไม่คาดหวังว่าการปรับตัวเหล่านี้จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้มากกว่าเกณฑ์การเติบโต 3.0% เนื่องจากไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายทางโครงสร้างที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม เช่น สังคมสูงวัย ขาดการลงทุนด้านเทคโนโลยีจากต่างชาติ FDI เติบโตช้า ขาดแรงงานมีทักษะ และปัญหาความล่าช้าในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อลดต้นทุนการขนส่ง
อย่างไรก็ดี ซีไอเอ็มบีไทย มองว่า กนง. น่าจะลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ สู่ระดับ 2.00% ไม่ใช่เพียงเพื่อประคองเศรษฐกิจไทยที่เติบโตช้าและอัตราเงินเฟ้อต่ำในช่วงครึ่งปีแรก แต่เพื่อตอบสนองต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะยาวที่ศักยภาพการเติบโตลดต่ำลง ปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ เช่น ขาดการลงทุน แรงงานขาดทักษะ และสังคมสูงวัย ที่ไม่อำนวยต่อการใช้อัตราดอกเบี้ยที่สูงในระยะยาว
ขณะที่คาดว่าปัญหาเศรษฐกิจที่เผชิญในระยะสั้นนี้ ไม่สามารถแก้ไขด้วยนโยบายการเงินอย่างเดียว แต่น่าอาศัยนโยบายการคลังเป็นตัวนำ ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยน่าจะเร่งตัวขึ้นหลังรัฐบาลมีงบประมาณมากระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุนในเดือนเมษายน และนโยบายดอกเบี้ยน่าจะกลับมาเป็นกองหลัง เว้นแต่ตลาดการเงินจะกดดันให้แบงก์ชาติลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ซึ่งเราต้องระวังผลข้างเคียงโดยเฉพาะการที่ไทยลดอัตราดอกเบี้ยก่อนสหรัฐ ทำให้สินทรัพย์ในรูปเงินบาทถูกลดความน่าสนใจ เกิดเงินไหลออก บาทอ่อนค่ากระทบผู้นำเข้า และต้นทุนการใช้จ่ายของครัวเรือนโดยเฉพาะด้านน้ำมัน แม้ไทยจะมีผู้ส่งออกและกลุ่มท่องเที่ยวได้ประโยชน์ก็ตาม แต่ยากจะวัดว่า การลดอัตราดอกเบี้ยแบบต่อเนื่องนั้นจะได้คุ้มเสียหรือไม่
ซีไอเอ็มบีไทยยังได้เปลี่ยนมุมมองแนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาท ซึ่งเราคาดการณ์ว่า เงินบาทจะอ่อนค่าถึง 37.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในสิ้นปี 2567 จากการประเมินก่อนหน้านี้ที่ระดับ 33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยช้ากว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า ซึ่งอาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม ตามตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะกระทบต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายจากตลาดเกิดใหม่