นายกฯสั่งทบทวนเงื่อนไขดิจิทัลวอลเล็ต ห่วงใช้ซื้อสมาร์ทโฟน สินค้านำเข้า ผิดวัตถุประสงค์

110
0
Share:

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต นั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ กลับไปทบทวนรายการสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ (Negative List) โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นอิมพอร์ต คอนเทนต์ เช่น สมาร์ทโฟน และเครื่องใช้ไฟฟ้านำเข้า เป็นต้น จากที่ก่อนหน้านี้ได้ คณะอนุกรรมการฯ มีข้อสรุปแล้วว่าสินค้าดังกล่าวสามารถเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตได้ เนื่องจากถือเป็นปัจจัยที่ 5 และเป็นเครื่องมือทำมาหากิน โดยนายกรัฐมนตรีขอให้เร่งกลับไปพิจารณา และนำข้อสรุปมาเสนออีกครั้งในสัปดาห์หน้า

โดยเรื่องสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้าตอนนี้ยังไม่จบเพราะหลังจากที่มีข่าวออกไปก็มีการถกเถียงกันในสังคมซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังและนายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยในเรื่องนี้จึงอยากให้ส่วนงานที่รับผิดชอบกลับไปทบทวนอย่างละเอียดอีกครั้งดังนั้นที่ประชุมฯจึงได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิย์กลับไปทบทวนเพราะต้องเข้าใจก่อนว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนี้ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจการบริโภคและการผลิตภายในประเทศเป็นหลักซึ่งรัฐบาลก็ห่วงว่าสินค้าอิมพอร์ตคอนเทนต์นี้เมื่อมีการใช้จ่ายเงินซื่อในรอบแรกเงินจะไหลไปต่างประเทศซึ่งอาจจะผิดคอนเซ็ปต์ของโครงการ

ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า ประเด็นเรื่องอิมพอร์ต คอนเทนต์ ค่อนข้างกว้างมาก และมีความยากในเรื่องการกำกับดูแล เช่น กรณีเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งมีทั้งที่ผลิตในประเทศ และนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งต้องหาวิธีการ และการกำกับ เพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะสินค้าอิมพอร์ต คอนเทนต์ ไม่ได้มีแค่เฉพาะสมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสินค้าอื่น ๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมฯ ยังหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับระบบการลงทะเบียนของประชาชนและร้านค้า ซึ่งยังยืนยันตามกำหนดการเดิมคือ ในไตรมาส 3/2567 รวมถึงการเชื่อมระบบในลักษณะ Open Loop โดยเรื่องนี้ยังต้องหารือกันในรายละเอียดต่อไป และจะต้องมีการพูดคุยกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่ม E-payment เป็นต้น รวมถึงพูดคุยถึงกลไกการเปิดช่องทางเพื่อให้ประชาชนสามารถยื่นอุทธรณ์สิทธิได้ โดยเร็ว ๆ นี้ รัฐบาลจะเร่งประชาสัมพันธ์โครงการ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องชัดเจนให้กับประชาชน

นายจุลพันธ์ ยืนยันว่าประชาชนทุกกลุ่ม จะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทพร้อมกัน และมั่นใจว่า ระบบการลงทะเบียนของรัฐที่เตรียมไว้ จะสามารถรองรับความต้องการของประชาชนได้อย่างแน่นอน