น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพิษณุโลก ซึ่งมีการประชุมเป็นประจำอยู่แล้วทุกวันพฤหัสบดี โดยวันนี้มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเข้าร่วมประชุมด้วย
โดยในประเด็นหลักวันนี้เป็นประเด็นที่สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณด่านช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี จนเหตุการณ์บานปลาย เพื่อหารือถึงผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้าชายแดน รวมถึงผลกระทบของประชาชนในพื้นที่หากมีการปิดด่านชายแดน จะมีผลดีผลเสียอย่างไรบ้าง ซึ่งทางคณะที่ปรึกษาได้มีข้อเสนอแนะในเรื่องนี้ไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประกอบการพิจารณากำหนดท่าทีของไทยในเรื่องดังกล่าวต่อกัมพูชา
นอกจากนี้การหารือวันนี้ยังมีการอัพเดทสถานการณ์และข้อมูลที่จะไปพูดคุย เจรจาเรื่องภาษีการค้ากับสหรัฐอเมริกาก่อนที่จะครบกำหนด 90 วัน
ด้านนายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เรียกประชุมคณะกรรมการสภาความมั่นคงแห่งชาติด่วนในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) เวลา 10.00 น.เพื่อสรุปมาตรการตอบโต้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน โดยจุดยืนรัฐบาลและกองทัพพร้อมปกป้องอำนาจอธิปไตยและดินแดนของไทยอย่างเต็มที่ ผู้ใดจะละเมิดมิได้
สำหรับการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ในพรุ่งนี้ จะมีการประเมินร่วมกัน โดยยึดทุกอย่างมาพิจารณา และคิดว่ามาตรการที่ทำอยู่พอเพียงหรือไม่ หรือต้องเพิ่มอย่างไรขนาดไหน ส่วนจะมากกว่าการปิดด่านชายแดนหรือไม่นั้น ก็ขอให้รอวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.) พร้อมยืนยันว่า มาตรการของไทยไม่ได้เป็นมาตรการตั้งรับ แต่เป็นการแสวงหาข้อยุติอย่างสันติ โดยฝ่ายแนวหน้าและฝ่ายกองบัญชาการข้างหลังได้คุยกันว่าจะใช้มาตรการเพิ่มขึ้นอย่างไรและจะได้ประโยชน์หรือไม่
“จากการคุยกันในพื้นที่ก็บอกว่ารอส่วนกลาง หากเราตัดสินใจยกระดับ ก็คุยกัน หากในพื้นที่เห็นว่าต้องยกระดับ จะเป็นระดับไหนก็ต้องคุยกัน แต่ที่ผ่านมาในพื้นที่เขาบอกว่าไม่จำเป็นต้องยกระดับ ดังนั้นตอนนี้ยังไม่มีอะไรน่ากังวล” นายภูมิธรรม กล่าว