นายกฯ มาเลเซียรีบแจงอนุทิน ไม่ได้พูดทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิง ไม่ได้บอกว่าไทยและกัมพูชาเห็นด้วย เสนอให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยั่วยุมีผล 4 ทุ่ม ทั้ง 2 ฝ่าย

นายกฯ มาเลเซีย รีบแจงอนุทิน ไม่ได้พูดทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิง ไม่ได้บอกว่าไทยและกัมพูชาเห็นด้วย เสนอให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยั่วยุมีผล 4 ทุ่ม ทั้ง 2 ฝ่าย

วันนี้ 14 ธันวาคม 2025 เวลา 14.20 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเกี่ยวกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ส่งข้อความมาถึงนายอนุทิน เพื่ออธิบายความชัดเจนเกี่ยวกับความหมายแท้จริงที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียโพสต์เมื่อวานนี้ มีดังนี้

เรียน อนุทิน นายกรัฐมนตรี “แถลงการณ์ของผมไม่ได้กล่าวถึงการหยุดยิง ผมเพียงแค่พูดว่า ข้อเสนอของผมให้ยุติการยั่วยุใดๆ ตั้งแต่ 22.00 น. ผมไม่ได้บอกว่าทั้งสองฝ่ายตกลงกันแล้ว”

นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน โพสต์ว่า คําแถลงตามข้างบนส่งมาถึงฉผมจากนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมเมื่อวานนี้

สิ่งนี้พิสูจน์อย่างชัดเจนว่าไม่มีแผน หรือข้อตกลงใดๆ โดยรัฐบาลไทยที่จะหยุดยิงกับศัตรูของไทย ณ เวลา 22.00 น. เมื่อคืนนี้ ประเทศไทยยืนหยัดอย่างมั่นคงด้วยความมุ่งมั่นในการรักษาไว้ การปกป้อง และการป้องกันความสมบูรณ์ของดินแดน และประชาชนของเราในทุกต้นทุนที่มีอยู่

ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ วันที่ 13 ธ.ค.68 เวลา 13.30 น. นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียน โพสต์ข้อความ ดังนี้ การหารือของผมกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ และพิจารณาถึงความตึงเครียดที่ยังคงดำเนินอยู่ตามแนวชายแดนกัมพูชา–ไทย ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์แยกกันกับนายกรัฐมนตรีของไทย อนุทิน ชาญวีรกูล และนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา นายฮุน มาเนต

ผมแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายยับยั้งชั่งใจถึงที่สุด ให้ยุติการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ทุกรูปแบบ ให้งดเว้นการดำเนินการทางทหารใดๆ เพิ่มเติม รวมถึงการใช้กำลัง หรือการเคลื่อนย้ายกำลังพลติดอาวุธไปยังแนวหน้า ให้มีผลตั้งแต่เวลา 22.00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคม 2025 (UTC+7)

เพื่อสนับสนุนความพยายามในการลดระดับความตึงเครียด และส่งเสริมความโปร่งใส มาเลเซียได้ร้องขอให้มีการจัดส่งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team – AOT) ซึ่งมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดของมาเลเซียเป็นหัวหน้าคณะ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ ภารกิจนี้จะได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมด้วยการเฝ้าติดตามผ่านดาวเทียม ซึ่งจัดหาโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยจะเริ่มดำเนินการในเวลาเดียวกัน

ผลการเฝ้าติดตามจากภาคสนามและข้อมูลจากดาวเทียม จะถูกรวบรวมโดยคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน และนำเสนอในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันอังคารที่ 16 ธันวาคม รายงานดังกล่าวจะให้ภาพรวมอย่างเป็นกลางของสถานการณ์ รวมถึงตำแหน่งของทั้งสองฝ่าย เพื่อประโยชน์ด้านความรับผิดชอบ การสร้างความเชื่อมั่น และการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles